หลัง "หลินฮุ่ย" แพนด้าเพศเมีย อายุ 21 ปี ตายเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2566 ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ขณะนี้รอการแจ้งกลับมาเพื่อส่งซากไปที่ศูนย์วิจัยแพนด้าของจีน เบื้องต้นผลชันสูตรพบว่า หลินฮุ่ยตายจากความชรา
นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะขอให้จีนส่งมอบแพนด้าตัวใหม่มาดูแลที่สวนสัตว์ในไทย ว่า โดยปกติการขอพิจารณาส่งมอบแพนด้าจะเป็นโครงการศึกษาวิจัยเรื่องแพนด้าระหว่างไทยกับจีน เช่น แพนด้าออกจากจีนแล้วจะผสมพันธุ์ได้ช่วงอายุเท่าใด และผลงานการผสมเทียมสำเร็จ แต่ไม่ใช่การขอนำมาจัดแสดงหรือต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายอรรถพร ยืนยันว่า ไทยเตรียมข้อมูลไว้แล้ว เพราะมีประสบการณ์ดูแลแพนด้ากว่า 20 ปี อีกทั้งที่ผ่านมาคนไทยมีความรักและผูกพันกับแพนด้า ในอนาคตจึงเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเสนอแผนได้ เพราะต้องรายงานสรุปผลการเลี้ยงตลอดระยะเวลา 20 ปี จากนั้นจีนจะตอบกลับมาว่าผลดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการส่งมอบแพนด้าตัวใหม่
อย่างไรก็ตาม แพนด้าถือเป็นสัตว์พิเศษ จึงต้องเจรจาในระดับนโยบายระดับสูง ไม่ใช่สวนสัตว์ต่อสวนสัตว์ ซึ่งการพิจารณาจะดูความต่อเนื่องของงานวิจัย เพราะรอบแรกนำมาอยู่ในไทยตอนอายุไม่มาก และเลี้ยงจนได้ลูกแพนด้าในไทย ด้วยวิธีผสมเทียม ส่วนการพูดคุยนอกรอบนั้น จีนให้การยอมรับว่าประเทศไทยดูแลแพนด้าดีกว่าประเทศอื่นที่ส่งมอบให้ไป
สิ่งสำคัญที่จีนอยากทราบ คือ คนไทยให้ความสนใจแพนด้ามากเพียงใด ซึ่งองค์การสวนสัตว์ฯ ทำได้ดีมาก เกิดกระแสแพนด้าบูม น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีช่องทางให้ดูแพนด้า 24 ชั่วโมง
ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไทยดูแลแพนด้าได้ดีตามอายุขัย ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ หรือป่วย กระทั่งตายด้วยโรคชรา อายุ 19-21 ปี หลังจากไม่มีแพนด้าในสวนสัตว์เชียงใหม่แล้ว รายได้การเข้าชมสวนสัตว์ไม่ได้ลดลงมากนัก แต่หลายคนก็ยังคิดถึงแพนด้าเพราะมีความผูกพัน
สำหรับแพนด้า "ช่วง ช่วง" และ "หลินฮุ่ย" เป็นทูตสันถวไมตรีจากประเทศจีน เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2546 ก่อนที่จะให้กำเนิดลูกชื่อ "หลินปิง" ออกมาเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2552 และถือเป็นลูกแพนด้าตัวแรกที่เกิดในประเทศไทยด้วยวิธีผสมเทียมของนักวิจัยไทย จากนั้นได้ส่งหลินปิงกลับประเทศจีน หลัง "ช่วง ช่วง" ตาย ส่วนหลินฮุ่ยอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เพียงตัวเดียวและตายเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา