วันนี้ (3 ก.ย.2566) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยกรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบตำรวจทางหลวง ที่คาดไปเกี่ยวข้องเรียกรับหรือมีผลประโยชน์ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นสติกเกอร์หลายรูปแบบ หรือที่เรียกว่า "ส่วยสติกเกอร์"
อ่านข่าว : “ส่วย สติกเกอร์” แลกช่องทางด่วน ผู้ละเมิดกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่พบว่ามีการจ่ายส่วยสติกเกอร์แล้ว ส่วนผลสอบตำรวจที่มีการร้องเรียนและสั่งย้ายตำรวจทางหลวงกว่า 40 นาย ยังรอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้ตำรวจทางหลวงได้ปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น โดยเน้นการทำงานสืบสวนจับกุมกับหน่วยอื่น ๆ เช่น การจับรถที่ขนยาเสพติด รถยนต์เถื่อน สวมป้ายทะเบียน การลักลอบค้ามนุษย์ เป็นต้น
ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ยังมีอยู่ 3 ส่วน คือ ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงจากจเรตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจทางหลวง หากชุดใดพบความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน แต่การรับส่วยดังกล่าวเชื่อว่ามีคนกลางที่รับส่วยและส่งไปยังหลายหน่วยที่เกี่ยวข้องซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้หากใครพบมีการจ่ายส่วยอยู่อีกก็สามารถแจ้งมาได้
อ่านข่าว : ถอดรหัส "สติกเกอร์" ส่วยรถบรรทุก
ส่วนการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวงคนต่อไป เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ก่อน ส่วนการแต่งตั้งผู้บังคับการก็จะเป็นลำดับถัดไป ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำงานร่วมกับรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงอยู่ ก็ยังเป็นไปในทิศทางที่ดียังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ข่าวอื่น ๆ
เปิดราคาเก็บ "ส่วยสติกเกอร์" ค่าผ่านทางรถบรรทุก
"วิโรจน์" เปิดข้อมูลส่วยสติกเกอร์ อ้างเงินสะพัดเกือบ 20,000 ล้านต่อปี