วันนี้ (7 ก.ย.2566) เวลา 08.15 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ถือฤกษ์เดินทางเข้ากระทรวงแรงงานหลังถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่สุชินพรหมมา โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่เข้ามากระทรวงแรงงานหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวานนี้ (6 ก.ย.66) จึงถือโอกาสฤกษ์งามยามดีเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงแรงงานทั้ง 5 จุด พร้อมได้เข้ามาพบปะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งวันนี้คงไม่ได้ให้นโยบายอะไรมาก เนื่องจากต้องรอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อสภาก่อนในวันที่ 11 – 12 ก.ย.นี้
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน
เมื่อได้รับนโยบายจากรัฐบาลแล้ว หลังจากนั้นจะได้มาแถลงนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงแรงงาน รวมทั้งฝ่ายลูกจ้าง ฝ่ายนายจ้างได้ทราบว่า หลังจากนี้ไปอีก 4 ปีข้างหน้ารัฐบาลจะทำอะไรบ้าง และกระทรวงแรงงานได้รับนโยบายจากรัฐบาลจะทำอะไรบ้าง
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ อยากเห็นกระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เพราะคำว่าแรงงาน เข้าถึงทุกภาคส่วนองคาพยพในประเทศไทย และหลังจากได้พบกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้ว จะได้ไปพบปะหารือกัน 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายสหภาพแรงงาน นายจ้าง และข้าราชการให้ครบ เพื่อนำความคิดเห็นจากทุกฝ่ายมาประมวลว่าเราจะเดินไปในทิศทางไหน ส่วนนโยบายที่ท่านสุชาติ ชมกลิ่น เคยทำเอาไว้และเป็นนโยบายที่ดีอยู่แล้วก็จะทำต่อเนื่อง จะไม่นับหนึ่งใหม่ และจะเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
นโยบายอะไรที่ดีก็จะดำเนินการสานต่อ เพื่อประหยัดเวลา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้นโยบายไว้ว่า ขณะนี้ ไม่มีเวลา ไม่มีเวลาพัก เข้ามาแล้วก็สามารถเริ่มงานได้เลย เริ่มได้เร็วที่สุด
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่รู้สึกกดดันในการทำงาน เนื่องจากเคยเป็นผู้บริหารในภาคธุรกิจ โดยนำความรู้ ความสามารถที่เคยประกอบธุรกิจมาใช้ในการบริหารงานในกระทรวง
จากนั้น นายพิพัฒน์ ได้เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน
รมว.แรงงาน ประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน
รมว.แรงงาน ประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน
อ่านข่าวอื่นๆ :
รัฐมนตรีทยอยเข้ากระทรวง ทำงานวันแรก