วันนี้ (7 ก.ย.2566) กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร และสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย รวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงคมนาคม พร้อมชูป้ายเรียกร้องให้ลดค่าพลังงานและเพิ่มค่าโดยสาร
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร และนายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เปิดเผยว่า มายื่นหนังสือถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เรื่องขอให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ พร้อมแสดงความยินดีในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม คนใหม่
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ที่ผ่านรถแท็กซี่ถูกละเลย และได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งการยื่นหนังสือไม่ได้เป็นการกดดัน แต่ขอให้ช่วยแท็กซี่ในฐานะคนที่หาเช้ากินค่ำ โดยปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องของค่าโดยสารรัฐบาลที่แล้ว หากรวมระยะเวลา 9 ปี จะต้องปรับค่าโดยสารประมาณร้อยละ 25 แต่รัฐบาลที่แล้วไม่สามารถปรับราคาให้ได้ เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบกับประชาชน จึงปรับค่าโดยสารขึ้นเพียงร้อยละ 7
หากจะใช้ตัวเลขเดิมอาจต้องศึกษาและพิจารณาร่วมกันใหม่ ขณะเดียวกันต้นทุนการประกอบการเดินรถทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงมีมากกว่า 100% นำไปสู่การปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมขอให้ลดราคาค่าพลังงานเพื่อไม่ต้องปรับค่าโดยสาร
นายวิฑูรย์ มั่นใจว่าหากมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารให้กับคนขับรถแท็กซี่ จะทำให้ชั่วโมงในการขับรถลดลงเช่นจาก 14 ชั่วโมง เหลือเพียง 11-12 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ขอให้พัฒนาแท็กซี่ โดยเฉพาะแท็กซี่ที่เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
ด้านนายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นผู้รับหนังสือแทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมระบุว่า เตรียมตั้งคณะกรรมการสองฝ่ายแก้ปัญหาแท็กซี่ โดยมีกรมการขนส่งทางบกเป็นเจ้าภาพ รวมถึงการลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือด้านพลังงาน จะหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อหามาตรการเยียวยา และเร่งนำประเด็นปัญหาทั้งหมดเสนอ รมว.คมนาคม เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือต่อไป
ส่วนกรณีการปฏิเสธผู้โดยสาร ที่ผ่านมาหลักเกณฑ์ในการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร ซึ่งแท็กซี่ขอมาร้อยละ 25 แต่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางให้ปรับขึ้นเพียงร้อยละ 7 เนื่องจากพิจารณาตามค่าราคาพลังงาน ขณะเดียวกันพบว่าข้อร้องเรียนในการให้บริการสถิติจำนวนการปฏิเสธผู้โดยสารหากไม่ลดลง จะไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารให้ รวมถึงในอนาคตมีแผนที่จะดูแลแท็กซี่โดยต้องการให้อบรมเรื่องของการใช้ภาษา
ส่วนกรณีรถป้ายดำที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน แต่ไม่ได้มาลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จะหารือร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเรื่องกฎหมายการดูแลการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน