วันนี้ (8 ก.ย.2566) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 11-12 ก.ย.นี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการจัดสรรเวลาจากฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง15 นาที
พรรคจะเน้นอภิปรายทั้งด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมี สส. แจ้งความจำนงอภิปรายมา 15 คน ตนจะเป็นผู้อภิปรายคนแรก รวมทั้งนายชวน หลีกภัย และสส.ใหม่ของพรรคอีกหลายคน
นายจุรินทร์ ระบุว่า จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล โดยจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ตามเนื้อผ้าให้คำเสนอแนะ และตั้งคำถามที่บางนโยบายยังขาดความชัดเจน
เป็นการตั้งคำถามแทนประชาชนที่บางเรื่องคลุมเครือ และบางนโยบายไม่ตรงปกส่วนจะเน้น ตรงไหน ขอให้รอวันแถลง
นายจุรินทร์ ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็ม กำลังความสามารถ เป็นฝ่ายค้านของประชาชน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานกับพรรคก้าวไกล หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ เพราะป็นภาคบังคับ
อ่านข่าว เรื่องอะไรบ้าง? “ประชาชนอยากบอกกับ "ครม.เศรษฐา 1”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อ่านข่าว : ฉบับเต็มคำแถลงนโยบาย “รัฐบาลเศรษฐา”
ซักฟอกค่าแรง-เกณฑ์ทหาร-รัฐธรรมนูญ
ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คณะทำงานของก้าวไกลที่ได้เห็นร่างแถลงนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย โดยจัด สส.อภิปราย 30 คน ซึ่งมีทั้ง สส.หน้าใหม่ เช่น สส.ภูเก็ต ขอนแก่น และ สส.กรุงเทพมหานคร รวมถึง สส.หน้าเก่าผสมกันไป
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล ระบุว่า เมื่อรัฐบาลเปลี่ยน แต่หลายอย่างไม่เปลี่ยน จึงแน่ชัดว่าวันนี้ เปลี่ยนแค่นายกรัฐมนตรี แต่รัฐไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ค่าแรง เกณฑ์ทหาร กระจายอำนาจ รัฐธรรมนูญใหม่ จะเปลี่ยนอะไรได้
เมื่อไม่กล้าแตะต้นตอปัญหา 11-12ก.ย.นี้ ชำแหละนโยบายรัฐบาลเศรษฐา 1 ในวาระที่นายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พร้อมฟังข้อเสนอแนะจากพรรคก้าวไกล บริหารอย่างไร ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
อ่านข่าว นายกฯ บินด่วนภาคอีสาน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม
"ทีดีอาร์ไอ" ชี้หลายนโยบายดี
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสภาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ มุมมองเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ก็มีทั้งที่ดี และที่น่าจะต้องทำให้ดีขึ้น
ส่วนดีเช่น การปรับบทบาทของรัฐจากการกำกับดูแลธุรกิจประชาชนเป็นการปลดล็อกอุปสรรคในการทำมาหากิน ปรับกฎหมายกำกับดูแลในสภา ใบอนุญาต สุราพื้นบ้านต่างๆ และการทำให้ภาคการเกษตรก้าวหน้า การเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ เป็นต้น
แต่บางนโยบายที่มีเชื้อจาก 8 MOU เดิม เช่น เรื่องสุราก้าวหน้า หรือเกณฑ์ทหารสมัครใจ ก็มองว่าเป็นเรื่องดีที่นำมาบรรจุในนี้ โดยเฉพาะที่เป็นประโยชน์จริงๆ ดีกว่าที่จะบอกว่า ถ้าไม่ใช่ของเรา ไม่เอามาทำ แต่ที่ไม่ดีก็มีเหมือนกัน แต่เป็นในแง่ว่า รายละเอียดในการหาเสียงชัดเจนกว่าที่บรรจุในนโยบาย ซึ่งสอด คล้องกับที่ก้าวไกลติงเหมือนกัน
สำหรับเวลาในการอภิปรายนโยบายวันที่ 11-12 ก.ย.นี้ แบ่งเวลาให้ประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง ฝ่ายครม.แถลงและชี้แจง 5 ชั่วโมง ฝ่ายสว. 5 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 5 ชั่วโมง ฝ่ายค้านได้ไป 14 ชั่วโมง ซึ่งทางก้าวไกลระบุว่าวางตัวผู้อภิปราย 30 คน เพื่้อชำแหละนโยบาย
อ่านข่าว
“ก้าวไกล” จัด 30 สส.ชำแหละนโยบายรัฐบาล ชี้สลายขั้วหรือจับขั้วใหม่