แต่ที่น่าสนใจคือ เป็นเสมือนเดินตามรอยของนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยสมัยแรก ได้ทำไว้ จนกลายเป็นตำนาน และโมเดลให้ถือปฏิบัติกันมาต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้กระทั่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายทักษิณแทบจะเป็นต้นตำรับของการทัวร์นกขมิ้น เดินสายพบปะประชาชนในทุกภูมิภาค ตั้งแต่หลังชนะเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2544 และยังเป็นต้นการจัดประชุม ครม.สัญจรในต่างจังหวัดอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
พระให้พรและผูกข้อมือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางเยือนภาคอีสาน
แต่ละครั้งจะสะท้อนภาพความอลังการเอาจริงเอาจัง ผ่านการนำเสนอขอสื่อรัฐและเอกชน ที่เขาเป็นเจ้าของเคเบิลทีวีรายใหญ่ในสมัยนั้น เป็นการนำหลักการตลาดมาใช้กับเวทีการเมืองอย่างโดดเด่นเป็นรายแรก
หลายครั้งมีการนำเทคโนโลยีขณะนั้น ลิงค์สัญญาณถ่ายทอดสด และมีภาพจากหลายเวทีปรากฏบนหน้าจอทีวีพร้อม ๆ กันได้ ในยุคสมัยเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
คนทั้งประเทศยังมีโอกาสได้เห็นแบบเรียลลิตี้ การใช้ชีวิตกับชาวบ้านแบบเป็นกันเอง อย่างภาพการขับขี่มอเตอร์ไซด์ธรรมดาๆ นำหน้าชาวบ้าน เมื่อครั้งลงพื้นที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อต้นปี 2549 นานถึง 4-5 วันเต็มๆ เป็นเรียลลิตี้แก้จน ที่คนในยุคนั้นยังจดจำได้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนภาคอีสาน
นายทักษิณจัดทัวร์นกขมิ้นหลายจังหวัดในภาคอีสาน รวมทั้งพาคณะเข้ากราบนมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เมื่อเดือนเมษายน 2547 พาคณะนอนค้างคืนที่นั่น ภาพการเดินนำหน้านักการเมืองรุ่นอาวุโสของอีสาน รวมทั้งนายประจวบ ไชยสาส์น อดีตนักการเมืองชื่อดัง และเป็นอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ก็มีให้เห็นสะท้อนบารมีขณะนั้น
การเดินสายของนายกรัฐมนตรีป้ายแดง นายเศรษฐา จึงไม่ต่างจากการเดินสายลงพื้นที่ของนายทักษิณ ต่างกันเพียงคนละยุคสมัยเท่านั้น
แม้แต่การเดินทางโดยรถไฟ ที่คณะนายเศรษฐาจะเปลี่ยนรถยนต์ไปขึ้นขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟอุดรธานี เดินทางไปสถานีรถไฟหนองคาย พร้อมนักธุรกิจภาคเอกชน เพื่อหารือเรื่องขนส่งสินค้าจากไทยไปประเทศจีน นายทักษิณก็ใช้วิธีนี้มาก่อนแล้ว
โดยในปีแรกการเข้าบริหารประเทศ 2544 นายทักษิณ ได้ใช้ตู้โบกี้รถไฟจัดประชุม ครม.สัญจร ที่จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ในช่วงปลายๆ ปี ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของรูปแบบการจัดประชุม ครม.
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากนายเศรษฐา จะมีแนวทางสนับสนุนเรื่องจัดประชุม ครม.สัญจรไปยังทั่วทุกภาค หลังจากได้รับเสียงโหวตจากที่ประชุมรัฐสภา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่วัน แต่สิ่งที่นายเศรษฐาต้องเติมลงไป
จึงเป็นเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจ ดังที่เห็นจากการเดินทางไปขอนแก่นล่วงหน้า 1 วัน ก่อนซุ่มเงียบเดินทางไปที่ตลาดโต้รุ่งรื่นรมย์ ใจกลางเมืองขอนแก่น พบปะพูดคุยกับผู้คนตุนคะแนนนิยมเพิ่มเติมไว้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ขณะเดินทางไปภาคอีสาน
นอกจากภารกิจหลักเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศและปากท้องประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังจะเป็นการตรวจสอบฐานเสียงสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปพร้อม ๆ กันด้วย เพราะทั้ง 3 จังหวัด ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ล้วนแต่เป็นฐานมวลชนที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย
การเลือกตั้งปี 2566 แม้พรรคเพื่อไทยจะโดน “ล้วงตับ” สูญเสียที่นั่ง ส.ส.ไปมาก แต่สำหรับจ.ขอนแก่น ที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เคยเป็นผู้ว่าฯ มาก่อน ก็มีมวลชนหนาแน่น
รวมทั้งกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ที่มีนางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ เป็นที่ปรึกษา และยังเป็นแกนนำเสื้อแดงภาคอีสาน ที่ส่งเสียงคัดค้านการนำอดีตนายพลทหารที่มีส่วนล้อมปราบคนเสื้อแดง จนต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีเป็นนายสุทิน คลังแสง นางพรรณวดี ยังเป็นภรรยาของ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตรัฐมนตรีและแกนนำสำคัญอีกคนของมวลชนเสื้อแดง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนภาคอีสาน
ส่วนที่อุดรธานี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงในภาคอีสานมาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย ด้านนักการเมือง มีนายวิเชียร ขาวขำ อดีต สส.หลายสมัย ปัจจุบันเป็นบ้านใหญ่ และเป็นนายก อบจ. มีคนในครอบครัวเป็นส.ส.หลายคน
ส่วนฐานมวลชน ในอดีต มีใครไม่รู้จักชื่อ นายขวัญชัย ไพรพนา หรือนายขวัญชัย สาระคำ บ้าง เพราะเป็นแกนนำสำคัญ แม้จะเคยถูกบีบจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่ลึก ๆ แล้ว เขายังชื่นชมในตัวนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม
จึงเป็นการตรวจสอบที่จะได้ผลที่สุด เมื่อดูจากจากท่าทีของมวลชนที่จะแสดงให้เห็นในการลงพื้นที่ครั้งนี้
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
มุมความคิด “จตุพร พรหมพันธุ์” คู่ขัดแย้งใหม่ ไม่น่ากลัว
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 เดือน ก.ย. จ่ายอะไรบ้าง
ขุนพลก้าวไกล-ประชาธิปัตย์ ลุยซักฟอกนโยบายเศรษฐา 1