“สนสามพราน” เพลงสุดท้ายอาลัย “สารวัตรแบงค์”

“สนสามพราน” เพลงสุดท้ายที่เพื่อนตำรวจร่วมรุ่นของ "สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ขับร้องในพิธีพระราชทานเพลิงศพ เพื่อร่วมไว้อาลัยเพื่อนที่จากไปเป็นครั้งสุดท้าย

เพลงดังกล่าวแม้ไม่ใช่เพลงมาร์ชตำรวจ แต่เป็นเพลงประจำสถาบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ที่เหล่านักเรียนตำรวจทุกคนสามารถขับร้องได้

บทเพลง “สนสามพราน”

โอ้ สนสยิวยืนต้นโอนอ่อน
โยกคลอนพลางถอนใจใหญ่
โอ้ สนครางเหมือนกับคนเป็นไข้
สนเอยอาวรณ์ไหวคล้ายเรา
ท่ามกลางถิ่นในไพรสน
เสียงสนหมือนดั่งมนต์เรียกเรา
หวีดวอนอ่อนโอนโยนเย้า
ครวญเคล้าเร้าเรียกเราร่ำไร

ขวัญเอยขวัญมา
สนสามพรานพร่ามหาขวัญใจ
เพื่อนเอยเพื่อนใจไปไหน
ลาไกลแล้วเพื่อนไยไม่มา

เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ร้องเพลง “สนสามพราน” ในงานพระราชทางเพลิงศพ

เพลง “สนสามพราน” ขับร้องโดย วินัย จุลละบุษปะ แต่คำร้องโดย ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน บันทึกเสียงครั้งแรกปี 2512 จังหวะแทงโก้ เป็นเพลงประจำสถาบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม

เพจเฟซบุ๊ก “พร่างเพชรในเกร็ดเพลง” ระบุว่า ตำนานพื้นที่ อ.สามพราน ที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยตำรวจในปัจจุบัน อยู่ในพื้นที่ อ.สามพราน ในอดีตเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งโขลงช้างขนาดใหญ่ที่ชอบเข้ามาหากินในบริเวณนี้ จนเรียกตำบลที่มีช้างอยู่หลายตัวนี้ว่าบางช้าง

ช้างตัวที่เป็นหัวหน้าโขลงเวลาตกมันจะดุร้ายมาก ทำลายพืชผลและทำร้ายชาวบ้านด้วย แต่ที่สุดมีนายพรานสามคนข้ามมาทางคลองปากลัด หรือท่าข้ามในปัจจุบัน เข้ามาปราบโขลงช้างได้สำเร็จ ชาวบ้านเรียกบริเวณที่ปราบโขลงช้างได้สำเร็จว่า “สามพราน” ตั้งแต่นั้นมา

โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ย้ายมาตั้งที่ อ.สามพราน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 วงดนตรีสุนทราภรณ์ได้แต่งเพลงประจำสถาบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจไว้ 4 เพลง คือ สามพราน, สนสามพราน, ลาก่อนสามพราน และ ลาแล้วสามพราน ทุกเพลงล้วนไพเราะและได้รับความนิยมทั้งจากนักเรียนนายร้อยตำรวจทุกนายและประชาชนที่รักเสียงเพลงทุกคน

ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน เขียนไว้ในเว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ วันที่ 12 เม.ย.2565 ระบุว่า ตำนานสุนทราภรณ์ ตอนที่ 14 ระบุว่า

เมืองที่ครูศรีสวัสดิ์แต่งเพลงให้มากที่สุด คือ “สามพราน” โดยแต่งเป็นเพลงสถาบัน คือโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รวม 4 เพลง ได้แก่

(1) เพลงสามพราน (โอ้งามสามพรานปานเสกสรร เทพนิมิตปั้นแต่งไว้ เพื่อชีวิตพราวดาวสุกใส ระเริงไปในแดนฟ้า ....”
(2) เพลงสนสามพราน (โอ้สนสยิวยืนต้นโอนอ่อน โยกคลอนพลางถอนใจใหญ่ โอ้สนครางเหมือนกับคนเป็นไข้ สนเอยอาวรณ์ไหวคล้ายเรา...)
(3) เพลงลาแล้วสามพราน (ลาแล้วสามพราน ถิ่นสถานวิมานของข้า จำร้างจำไร้ไกลตา จากดินฟ้า สถาบันใจ ...)
(4) อีกเพลงหนึ่งเป็นเพลงสถานที่ คือ เพลงเยือนสามพราน (มาเยือนสามพรานแดนตระการดาลดื่มใจ ดังเทพนิมิตไว้แสนสดใสสล้างรมย์ ร่มกายร่มใจไปแม้เนาในแดดลม น่าชื่นชมสมเสพสุขสมรักภิรมย์หล้าฟ้า ...)