บทบาทในสภานั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดในฐานะดาวเด่น ในการทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาล รวมถึงอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้คนจึงมีภาพจำการตอบโต้ฝ่ายค้านอย่างไม่ลดราวาศอก แรงมาแรงกลับ
ล่าสุด ยังมีบทบาทเด่นหลังเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 เมื่อครั้งขั้วเสรีนิยมส่งแคนดิเดตนายกฯ ให้รัฐสภาเลือก ตั้งแต่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และต่อเนื่องแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เขาเป็นคนประกาศชัดว่า วุฒิสภาไม่เอานายกหน่อมแน้ม
ก่อนถึงวันโหวตจริง นายกิตติศักดิ์ กลับไม่ได้เข้าร่วมประชุม ไม่ได้ร่วมลงคะแนนเสียง เหตุผลคือติดภารกิจที่ จ.พิจิตร เรื่องเกี่ยวเนื่องกับวัดบางคลาน
สำหรับวัดบางคลาน ชื่อเดิม วัดวังตะโก เป็นวัดเก่าแก่ของ จ.พิจิตร สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2377 แต่ไหนแต่ไรมา เป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย โดยเฉพาะพระเครื่อง และเครื่องลางของขลังหลวงพ่อเงิน ที่ร่ำลือว่า โดดเด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย
ด้วยแรงศรัทธาต่อเหรียญและเครื่องรางหลวงพ่อเงิน นำไปสู่รายได้และกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์มหาศาล เป็นจุดเริ่มต้นสู่ข้อพิพาทข้อขัดแย้ง ทั้งระหว่างชาวบ้าน ลูกศิษย์ รวมทั้งแวดวงพระสงฆ์ด้วยกัน
จุดปะทุจริง ๆ คือปี 2557 หลังเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร สั่งปลดเจ้าอาวาสรูปเดิม เนื่องจากใช้เงินวัดผิดวัตถุประสงค์ และมีการตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาส ให้เข้ามาบริหารจัดการวัด เรื่องผลประโยชน์ในวัด แต่กลับมีความเห็นไม่ตรงกันแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจอีกฝ่าย รวมทั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ จนเกิดเรื่องฟ้องร้องหลายคดี
ฝ่ายคัดค้านเจ้าอาวาสรูปใหม่ ไปดึงนายกิตติศักดิ์ เข้ามาช่วยแก้ปัญหา แต่กลับเหมือนเติมความยุ่งยากมากขึ้น กระทั่งเดือนเมษายน 2566 ปรากฏมีชายฉกรรจ์กว่า 20 คนบุกเข้าไปในวัด ทำร้ายไวยาวัจกร และคนงาน บาดเจ็บ
ลุกลามถึงขั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ต้องลงพื้นที่ไปกำกับด้วยตัวเอง ก่อนจะมีออกหมายจับกลุ่มชายฉกรรจ์ และหมายเรียกนายกิตติศักดิ์ไปรับทราบ 3 ข้อกล่าวหา คือเป็นผู้ใช้และจ้างวาน บุกรุกเคหสถานและทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
แต่ทาง สว.ซึ่งเคยโดนศาลจังหวัดพิจิตร สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวัดบางคลาน ตั้งแต่ปี 2562 ยังยืนกรานปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ล่าสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคลิปภาพ สว.กิตติศักดิ์ ไปปะทะคารมอย่างเข้มข้นทั้งกับชาวบ้านและเจ้าอาวาส ที่ถูกคนอีกกลุ่มหนึ่งปิดประตูจากด้านในไม่ให้เข้าวัด จนร้อนทั้งโซเชียล ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ดีเอสไอ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าไปทำคดีนี้แทน
สำหรับนายกิตติศักดิ์ เองถูกร้องให้วุฒิสภาตรวจสอบว่า ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล เข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรมของ สว. หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภาที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานคนที่ 1 เป็นประธาน ได้ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนแล้ว และเห็นควรให้ลงโทษด้วยการว่ากลาวตักเตือน
แต่เมื่อส่งกลับสภา ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบ 93 เสียงต่อ 33 เสียง งดออกเสียง 37 คน รวมทั้งสิ้น 163 คน เท่ากับนายกิตติศักดิ์พ้นจากข้อร้องเรียน ด้วยเหตุคะแนนเสียงเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ ส.ว. คือ 124 เสียง ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่า มีรายการ “อุ้ม” รักษาฯ ใครหรือไม่ นอกเหนือจากมีเรื่องบารมีและอิทธิพลมาเกี่ยวข้องด้วย
หลายคนในภาคประชาชน จึงปิ๊งไอเดียว่า หากมีเรื่องอิทธิพลจริง ควรนำไปสะกิดนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่กำลังอยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้พิจารณาดูเรื่อง สว.คนดัง จะในข่ายด้วยหรือไม่ อย่างไร เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับทุกฝ่าย
แม้แต่ ส.ว.กิตติศักดิ์ เอง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา