ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เร่งติดตาม "ชายขี่ซาเล้ง" ลักพาตัว ด.ช.วัย 14 ปี จ.สิงห์บุรี

อาชญากรรม
22 ก.ย. 66
18:59
1,136
Logo Thai PBS
เร่งติดตาม "ชายขี่ซาเล้ง" ลักพาตัว ด.ช.วัย 14 ปี จ.สิงห์บุรี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจเร่งติดตามชายอายุ 40-50 ปี ขี่ซาเล้งเก็บของเก่าขาย ลักพาตัวเด็กชาย 14 ปี จากบริเวณวัดบางโฉมศรี ทำทีตีสนิทหลอกจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้

วันนี้ (22 ก.ย.2566) ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกระจกเงา เร่งตามหา "น้องมัว" เด็กชายอายุ 14 ปี หายออกจากบริเวณวัดบางโฉมศรี ต.ชีนํ้าร้าย อ.อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกลักพาตัวไปโดยชายอายุ 40-50 ปี ชื่อว่านายพัน หรือบอย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มีอาชีพเก็บของเก่าขายในตัวเมืองสิงห์บุรี

เบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนสิงห์บุรี-ชัยนาท สายเก่า ใกล้กับองค์การบริหารส่วนตำบลทับยา ห่างจากวัดโฉมศรี 20 กิโลเมตร เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเด็กชายมัวนั่งอยู่บนรถซาเล้ง โดยมีนายพันเป็นผู้ขับขี่

ต่อมามีเบาะแสว่านายพันได้เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองอินทร์บุรี เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ ซึ่งผู้ดูแลโรงแรมและเจ้าของร้านค้าที่อยู่ติดกัน ยืนยันว่าพบนายพันพาเด็กชายมัวเข้ามาพัก และออกไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา

แม่วอนรีบนำตัวลูกชายมาคืน

ขณะที่เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.2566) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบเห็นชายขับรถซาเล้งและมีเด็กชายเดินทางมาด้วย โดยแวะพักที่อาคารร้างแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเชียในเขตอำเภอเมืองสิงห์บุรี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกลับไม่พบ

ด้านแม่ของเด็กชายมัว เข้าพบตำรวจเพื่อให้เบาะเพิ่มเติมว่า ได้รับการติดต่อจากลูกชายผ่านเฟซบุ๊กที่คาดว่าเป็นของนายพัน ระบุว่า นายพันจะพาไปเที่ยวทะเล ซึ่งตนเองต้องการให้นำลูกชายกลับมาคืนโดยเร็ว

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา บอกว่า ผู้ต้องสงสัยลักพาตัวเด็กชายมัว มีประวัติเคยก่อเหตุที่ จ.ปราจีนบุรี และตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้เป็นการลักพาตัวเด็กที่โตแล้ว ผู้ก่อเหตุน่าจะอาศัยความต้องการของเด็กมาหลอกล่อเพื่อจูงใจให้อยากไปด้วย

พฤติการณ์ทำทีตีสนิท หลอกจะซื้อมือถือให้เด็ก

ข้อมูลจากมูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเข้าไปเก็บของเก่าบริเวณวัด จึงรู้จักกับเด็ก จากนั้นทำทีตีสนิทโดยซื้อขนมและให้เงิน รวมทั้งให้เล่นโทรศัพท์มือถือ จนเด็กเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายหลอกว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้จนเด็กยอมตามไป โดยจากภาพกล้องวงจรปิดที่พบจะเห็นว่า เด็กนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือบนซาเล้งตลอดเวลา นอกจากนี้ มีเด็กคนอื่นให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเคยมาชักชวนไปด้วย โดยหลอกว่าจะพาไปซื้อโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หากผู้ใดพบเห็น แจ้งเบาะแสได้ที่มูลนิธิกระจกเงา โทร. 080 775 2673 หรือ สภ.อินทร์บุรี โทร. 036-581-303

สำหรับเด็กชายคนดังกล่าว เป็นเด็กชาติพันธุ์ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ อ.พบพระ จ.ตาก ต่อมาเมื่อปี 2565 เด็กได้เดินทางมาเรียนในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี และพักในวัดที่รับดูแลเด็ก เนื่องจากพ่อแม่ต้องไปทำงานก่อสร้างที่อื่นและไม่มีเวลาดูแล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง