วันนี้ (2 ต.ค.25669) การพบกันระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ศาลาว่าการ กทม.
หนึ่งในประเด็นที่มีความชัดเจนระดับนโยบายคือ การเดินหน้าปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วย มองว่า โจทย์ยาก คือ ประเด็นรถไฟฟ้า ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดี เกี่ยวกับสัญญาการว่าจ้างเดินรถ
ดังนั้น ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงใหม่ ก็จะต้องให้เกิดความชัดเจนในยุคของ "นายอนุทิน กับ นายชัชชาติ" ส่วนการเสนอยกเลิก ม.44 ยุค คสช. ที่ผูกพันกับเรื่องการจ่ายหนี้บีทีเอส ไปพ่วงกับการต่อสัมปทานออกไปอีก 30 ปี จะยังไม่เอามาเกี่ยวข้องกัน
แต่สิ่งที่ยืนยันได้ คือ การทำทุกประเด็นให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการจ่ายหนี้ระบบอาณัติสัญญาณ ที่ กทม.ติดค้าง บีทีเอส กว่า 22,000 ล้านบาท ในขณะนี้ต้องรอฟังข้อสรุปจากทาง สภา กทม. วันที่ 4 ต.ค.นี้ ที่กระทรวงมหาดไทย และ กทม. จะตัดสินใจเรื่องนี้ และทางกระทรวงมหาดไทย จะรายงานให้คณะรัฐมนตรี รับทราบ
นายชัชชาติ ระบุว่า ข้อสรุปเบื้องต้น จะแยกก้อนหนี้ที่ติดค้างอยู่ออกมาต่างหาก จากสัมปทาน ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า กทม.มีเงินจ่ายหนี้ให้บีทีเอส แต่ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ว่าฯ กทม. พบปะ รองนายกฯ ณ ศาลาว่าการ กทม.
ขณะที่นายอนุทิน รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เรื่องนี้ มีข้อสงสัยทั้งเรื่องความโปร่งใส และการตัดสินใจจะดำเนินการ ดังนั้น ถ้าจะเริ่มกระบวนการใหม่ ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่ใช่การยึดเรื่อง ม.44 หรือ ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง และ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเอกชนด้วย
ส่วนค่าโดยสารเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่ขณะนี้ ยังไม่ได้จัดเก็บนั้นมากกว่า 3 ปี ขณะนี้ ยืนยันว่ามีแนวทางจะจัดเก็บ แต่ทุกอย่างต้องผ่านขั้นตอนที่ชัดเจน
อ่านข่าวอื่น :
น้ำหอมพ่นพิษ! อินเดียสั่งห้ามนักบิน-ลูกเรือฉีดก่อนเหินฟ้า
“ผบ.ตร.” แต่งตั้งรักษาราชการแทน “รองผบ.ตร.-จเรตำรวจ”
สรุปเหรียญ เอเชียนเกมส์ 2022 จันทร์ที่ 2 ต.ค.2566 จีนคว้าทอง 142 เหรียญ