วันนี้ (5 ต.ค.2566) สหรัฐอเมริกา ทดสอบระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินทั่วประเทศ การทดสอบในครั้งนี้เป็นการทดสอบครั้งที่ 7 ของสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ FEMA และคณะกรรมาธิการการสื่อสารของรัฐบาลกลาง ที่จะทำการทดสอบทุก 3 ปี โดยในช่วงที่มีการทดสอบ โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องจะได้รับข้อความ รวมถึงสถานีวิทยุและโทรทัศน์จะได้รับข้อความแจ้งเตือนด้วยเช่นกัน
ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของทุกคนจะมีข้อความ ระบุว่า นี่เป็นการทดสอบระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินไร้สายแห่งชาติ เป้าหมายเพื่อรักษาและปรับปรุงศักยภาพในการแจ้งเตือน จากหน่วยงานของรัฐบาลกลาง หน่วยงานในระดับรัฐ ระดับท้องถิ่น ในกลุ่มชาติพันธุ์และเขตแดน เพื่อประเมินระบบการแจ้งเตือนของทั้งประเทศและศักยภาพในการแจ้งเตือน โดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ดูการแจ้งเตือนฉุกเฉินบนโทรศัพท์มือถือของเขาในระหว่างการพิจารณาคดีของวุฒิสภาพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่ง ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ภาษาของข้อความมีทั้งภาษาอังกฤษและสเปน ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในโทรศัพท์ ดังนั้นหากอยู่ในสหรัฐฯ แม้เป็นนักท่องเที่ยวแต่ใช้โทรศัพท์มือถือ ยังไงก็ได้รับการแจ้งเตือน เพราะระบบการส่งสัญญานใช้เสาอากาศของเครือข่ายโทรคมนาคม นอกจากนี้ยังมีระบบสั่นเพื่อให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายรู้ว่ามีการแจ้งเตือน
ช่องทางการแจ้งเตือนไม่ได้มีอยู่แค่โทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังมีการส่งข้อความอีกชุดหนึ่งออกอากาศผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่ง ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการแจ้งเตือนฉุกเฉินไม่ได้มีแค่ FEMA เท่านั้น แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็สามารถใช้ช่องทางนี้แจ้งเตือนประชาชนได้เช่นกัน ซึ่งการทดสอบใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
การแจ้งเตือนใช้ได้กับเหตุฉุกเฉินทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ แจ้งเตือนเรื่องพายุ ไฟป่า หิมะตก รวมถึงการแจ้งตามหาคนหายก็ทำได้ การซักซ้อมระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ถูกระบุไว้ในกฎหมายตั้งแต่ปี 2015 ว่าจะต้องทำการทดสอบทุก 3 ปี
แม้ว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีคนกลุ่มหนึ่งยื่นเรื่องต่อศาลในนิวยอร์ก เรียกร้องให้ทางการระงับการทดสอบระบบนี้ โดยระบุว่าระบบแจ้งเตือนนี้ "ละเมิดสิทธิของประชาชนตามบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาข้อที่ 1 และ 4 ซึ่งให้เสรีภาพแก่ประชาชนโดยไม่ต้องฟังที่สิ่งที่รัฐบาลบังคับ และไม่อนุญาตให้เข้าถึงหรือยึดครองอุปกรณ์สื่อสารของพวกเขา"
เหตุผลเพราะว่าในตอนนั้นกำลังจะมีการทดสอบระบบแจ้งเตือน ซึ่งส่งมาจากทำเนียบประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งฝ่ายที่ไม่ชอบทรัมป์ ระบุว่า พวกเขาไม่ต้องการ จะได้รับข้อความตัวอักษรของหัวข้อหรือเรื่องใด ๆ จากประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว และทำให้โทรศัพท์มือถือของประชาชนกลายเป็นเครื่องขยายเสียงของรัฐบาลที่บังคับให้ต้องฟัง แต่ศาลไม่รับคำฟ้อง
ส่วนโฆษกของ FEMA อธิบายว่า ข้อความไม่ได้มาจากประธานาธิบดีโดยตรง แต่ส่งในนามของประธานาธิบดี ซึ่งต้องผ่านการปรึกษาและติดต่อเจ้าหน้าที่ FEMA ก่อน และบอกว่า ข้อกล่าวหาไม่มีเหตุผล แม้ไม่มีช่องทางเลือกไม่รับก็จริง แต่ระบบถูกบริหารจัดการอย่างดีจะไม่มีสถานการณ์แบบที่ประธานาธิบดีตื่นมาตอนเช้าวันหนึ่งแล้วก็ส่งข้อความส่วนตัว