กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา (Economics Tourism and Sports Division) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดข้อมูลล่าสุด 2 ต.ค.2566 เกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ณ วันที่ 1 ม.ค. - 1 ต.ค.2566
ข้อมูลนักท่องเที่ยวสะสม 1 ม.ค.-1 ต.ค.2566
พบว่ายอดนักท่องเที่ยวสะสมมีจำนวน 20,051,535 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 250 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว แล้ว 5 อันดับนักท่องเที่ยวสูงสุด ได้แก่
- มาเลเซีย 3,280,622 คน
- จีน 2,509,698 คน
- เกาหลีใต้ 1,197,763 คน
- อินเดีย 1,165,935 คน
- รัสเซีย 994,431 คน
ส่วนปัจจัยที่คาดว่ามีผลทำให้ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวไทยอยู่ได้แก่
- มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าประเทศ หรือ วีซาฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซักสถาน ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นถึง 100,000 คนในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังประกาศใช้ (ข้อมูล 24 ก.ย.-1 ต.ค.2566)
- วันหยุดต่อเนื่องในมาเลเซียและเกาหลีใต้
- วันหยุดช่วง Golden week ของชาวจีน (1-7 ต.ค.2566)
- การเริ่มฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวยุโรป เช่น เยอรมนี รัสเซีย
จากข้อมูลดังกล่าว อาจสร้างความสงสัยและแปลกใจได้ว่า จีนไม่ใช่สุดยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมืองไทยหรอกหรือ ?
ลองมาดูกันว่า 3 ปัจจัยที่ทำให้ มาเลเซียแซงหน้าจีน เข้าวินอันดับ 1 ยอดนักท่องเที่ยวสะสมเดินทางเข้าไทย
ไกลแค่ไหนก็ใกล้ที่สุด
พื้นที่ภาคใต้ของไทยที่ติดกับมาเลเซียมี 4 จังหวัด ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา นราธิวาส ที่ด่านเบตง จ.ยะลา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ข้อมูลว่า วันธรรมดาจะมีชาวมาเลเซียข้ามแดนมาเที่ยวประมาณวันละ 1,000 คน แต่ถ้าวันหยุดสุดสัปดาห์จะมากถึง 2,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาด้วยรถบัส รถตู้โดยสาร และรถยนต์ส่วนตัว
ข้อมูลจาก UASEAN มหานครอาเซียน ระบุว่า ด่านเบตง และ ด่านสุไหงโก-ลก เป็น 2 ด่านที่มีคนเข้าเมืองมากที่สุด เมื่อเทียบกับด่านทางบกอื่นๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี
ล่าสุดเมื่อ 11 ส.ค.2565 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดบริการรถไฟสายใต้ เส้นทางสถานีกรุงเทพฯ – สถานีปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) – สถานีกรุงเทพฯ ต่อมาเดือน เม.ย.2566 รถไฟมาเลเซีย KTM (Keretapi Tanah Melayu) จัดเดินรถขบวนพิเศษเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 29 เม.ย.2566 - 1 ม.ค. 2567
เส้นทางรถไฟไทย-มาเลเซีย
ถูกดีที่เมืองไทย
ในวันหยุดยาวของมาเลเซีย หรือเทศกาลท่องเที่ยว ชาวมาเลเซียจะนิยมเดินทางมาเที่ยวไทย เพราะค่าใช้จ่ายมีราคาที่ถูกกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินกัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ พบว่ามีราคาอยู่ประมาณ 2,000-3,000 บาท ในขณะที่หากชาวมาเลเซียเองต้องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เช่น จากกัวลาลัมเปอร์ ไปยัง รัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว ต้องเสียค่าตั๋วประมาณ 3,000-15,000 บาท
ตั๋วเครื่องบินที่มีราคาถูก ทำคนมาเลเซียยอมจ่ายเพื่อเที่ยวไทย
ปีที่แล้ว (2565) สื่อมาเลเซียเสนอข่าวนักท่องเที่ยวมาเลเซียไหลเข้าไทย ทำเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวมาเลเซียบนเกาะลังกาวี ลดลงกว่าร้อยละ 48.9 แต่ก็ถูกชาวเน็ตมาเลเซียโต้กลับว่า
สยาม (ไทย) คือที่สุด อาหารอร่อยและราคาถูก ซื้ออาหารตามรถขายอาหารก็เทียบเท่าอาหารจากร้าน 5 ดาวเลย นอกจากนั้น ซื้อตั๋วไปซาบาห์ ซาลาวัก ราคาเหมือนซื้อตั๋วไปออสเตรเลีย
สื่อมาเลเซียอ้าง นักท่องเที่ยวมาเลเซียเที่ยวไทย ทำเศรษฐกิจมาเลเซียถดถอย
ความคิดเห็นชาวเน็ตมาเลเซีย
มากไปกว่านั้น ด้วยมาตรการวีซาฟรี ไทย-มาเลเซีย นักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศจะสามารถพำนักอยู่ในไทย หรือ มาเลเซียได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องทำเรื่องขอวีซา ยิ่งเป็นมาตรการที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และ เป็นสิ่งดึงดูดให้ชาวมาเลเซียนิยมเดินทางเข้ามาใช้จ่ายในไทย มากกว่าประเทศของตนเอง
วัฒนธรรมบ้านพี่เมืองน้อง
"กินเมืองคอน นอนเมืองไทร" ยังถือเป็นคำขวัญบ้านพี่เมืองน้องของชาวมาเลเซียและชาวไทย เดือน มิ.ย.2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมจากมาเลเซียนิยมท่องเที่ยวในภาคใต้ของไทย ด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม และอาหารที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยว 1 คนใช้เงิน 28,729 บาท/ทริป
อาหารมาเลเซียที่มีความคล้ายคลึงกับอาหารไทย
และไทยยังเป็นประเทศเสรี มีอิสระทางความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ เพศ ไม่ได้มีระเบียบทางศาสนาที่เข้มงวดเท่ามาเลเซีย ชาวมาเลเซียหลายคนจึงมองว่า ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่ถูก แต่ความบันเทิงก็เป็นอีก 1 ปัจจัยด้วย ที่เมืองไทยมีโอกาสที่พวกเราจะได้เจอศิลปินที่ชื่นชอบ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าพวกเขาเป็น LGBT แต่อย่างใด สิ่งสำคัญคือเราต้องการคือ สนุกกับเสียงดนตรีและความบันเทิง เท่านั้น
ความคิดเห็นชาวเน็ตมาเลเซีย