คอป.พร้อมเสนอรายงานฉบับที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้
กระแสข่าวการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลายเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ซึ่งกรณีนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ยังไม่มีการเสนอเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และ ไม่มีบุคคลใดในรัฐบาลเคยมีมติในเรื่องนี้มาก่อน แต่ยอมรับว่าขณะนี้กระทรวงยุติธรรมมีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองและตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาตรวจสอบให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิเสธให้ความเห็นในกรณีนี้ พร้อมระบุว่า เป็นขั้นตอนของกระทรวงยุติธรรม ด้านโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกดดันพระราชอำนาจ และ ทำลายระบบนิติรัฐ ส่วนเเนวทางการชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านจะมีขึ้นหากรัฐบาลออกกฏหมายนิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ
ขณะที่นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตรวจสอบการทำงานกระทรวงยุติธรรม เชื่อว่า รัฐบาลได้วางแผนเป็นขั้นตอนที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ตั้งแต่การทวงถามถวายฎีกา การออกกฏหมายนิรโทษกรรม รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฏหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า การถวายฎีกาไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลแต่เป็นเรื่องที่เสนอมาตามขั้นตอน หลังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ถ่วงเวลาการตรวจสอบเรื่องนี้ยาวนานกว่า 3 ปี
สำหรับแนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมการบริหารสภาทนายความ ระบุว่า การขอพระราชทานอภัยโทษมี 2 ลักษณะด้วยกัน คือการขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะบุคคล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และการขอพระราชทานอภัยโทษหมู่ โดยคณะรัฐมนตรีออกเป็นพระราชกฤษฎีกา แม้จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป แต่นายวันชัย ยอมรับว่า คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเข้าหลักเกณฑ์ในอดีตและหากร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ที่คาดการณ์ว่า จะออกมาในเดือนธันวาคมนี้ ใกล้เคียงกับในอดีตอาจจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับพระราชทานอภัยโทษไปด้วย
ขณะที่ ศ.คณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีการถวายฎีกา และ การนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนหาข้อเท็จริง กรณีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 คอป.จะส่งรายงานฉบับที่ 2 เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่า หากไม่เกิดข้อผิดพลาดน่าจะสามารถสรุปรายงานเสนอได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยประเด็นสำคัญในรายงานฉบับที่ 2 จะมีเรื่องของการเยียวยาผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ในฉบับก่อนได้เสนอความเห็นไปแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบรับ
สำหรับข้อมูลในครั้งต่อ ๆ ไปที่ คอป.จะเสนอต่อรัฐบาล จะเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ เป็นแบบ 2 ภาษา คือทั้งแบบภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในช่วงเวลาเดียวกับที่เสนอให้รัฐบาลรับทราบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ข้อมูลได้รับการยอมรับจากสาธารณะ