วันนี้ (13 ต.ค.2566) นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียแชร์โพสต์มีข้อความแนะนำยาน้ำลดไข้สำหรับเด็กพาราเซตามอล ว่าเป็นยาน้ำเด็กที่ควรมีติดบ้านไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ว่า ยาน้ำสำหรับเด็กที่จำหน่ายในท้องตลาดถึงแม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาเดียวกันแต่อาจมีขนาดความแรงที่แตกต่างกัน
ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่เด็กอาจจะได้รับยาเกินขนาดได้จากความเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ยาน้ำแก้ปวด ลดไข้ พาราเซตามอลมีจำหน่ายหลายความแรง สังเกตจากฉลากซึ่งจะแสดงความเข้มข้นจากน้อยไปมาก ดังนี้
- 120 มก./5 มล.
- 160 มก./5 มล.
- 250 มก./5 มล. (5 มล. = 1 ช้อนชา)
แต่ละความแรงมีขนาดรับประทานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของเด็ก ดังนั้น ผู้ปกครองควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาอย่างละเอียดก่อนใช้ยา เพื่อให้ได้รับขนาดยาที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของเด็ก และป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับยาเกินขนาด หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
นพ.วิทิต กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคที่ทำให้เกิดไข้ได้หลายโรค อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และโควิด-19 แต่ละโรคมีความรุนแรงที่แตกต่างกันและมีความซับซ้อนในการประเมินแยกโรคจากอาการที่แสดง
ดังนั้น หากใช้ยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้นใน 5 วัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม และหากมีอาการผิดปกติซึ่งอาจบ่งบอกถึงการแพ้ยา เช่น บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก ลมพิษ หน้ามืด ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก ให้หยุดใช้ยาและรีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ อย.ยังคงมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพของประชาชนและส่งเสริมให้ประชาชนใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการใช้ยา 5 ถูก ได้แก่ ถูกโรค ถูกคน ถูกขนาด ถูกเวลา ถูกวิธี
กรณีที่พบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะเป็นอันตราย สอบถามหรือแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย.1556