ญาติวีรชน-นักการเมือง ร่วมกิจกรรม รำลึก 50 ปี "14 ตุลา 2516"

นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ร่วมกิจกรรมรำลึกครบรอบ 50 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แม้จะเห็นร่วมกันในประเด็นการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิไตย แต่หลายคนก็มีข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย

วันนี้ (14 ต.ค.2566) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติวีรชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน ขณะที่ตัวแทนต่าง ๆ ทั้งราชการ เอกชน ฝ่ายการเมือง อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข มาในนามตัวแทนพรรคเพื่อไทย

และนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ทยอยเดินทางมาวางพวงมาลา และสดุดีวีรชนที่เสียชีวิตใน 14 ตุลา 16

นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สะท้อนมุมมองถึงการเมืองมองว่า ทิศทางการเมืองไทยปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เพราะประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกตามหลักประชาธิปไตยมากขึ้น

นพ.ชลน่าน กล่าวสดุดีวีรชนผู้ล่วงลับ ในงานรำลึก 50 ปี 14 ตุลา โดยระบุว่า ประเทศเผชิญเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ มากมาย ทำให้การส่งเสริม สร้างสรรค์ และการพัฒนาประชาธิปไตยต้องสะดุด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

การจัดกิจกรรมครบรอบครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมรำลึก และทบทวนว่าควรจะใช้สิทธิ เสรีภาพ ที่มีอยู่ขณะนี้ ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและประเทศ รวมทั้งผลักดันให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสร้างความยุติธรรมในสังคม ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เชื่อว่า การเสียสละของเหล่าวีรชน 14 ตุลา คือ ปฐมบทของระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้เหตุการณ์จะผ่านมา 50 ปีแล้ว แต่หากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน พบว่ามีคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นด้านการเมืองมากขึ้น เพื่อขับไล่เผด็จการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

และพบว่าเยาวชนถูกดำเนินคดีค่อนข้างมาก ถูกริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งอยากให้มองว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีไม่ใช่อาชญากร แค่มีความคิดเห็นแตกต่างเท่านั้น ดังนั้นจึงเสนอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพราะมีเยาวชนประชาชน ถูกฟ้องร้อง จำคุก บางส่วนต้องลี้ภัยออกไปอยู่นอกประเทศ หลายคนไม่ได้รับสิทธิประกันตัว จึงเห็นควรนิรโทษกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เจรจาพูดคุยกัน

นายชัยธวัช ย้ำต้องทำประชามติ เพื่อร่างรฐธรรมนูฐฉบับใหม่จาก สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน