วันนี้ (19 ต.ค.2566) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ถึงกรณีที่ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดอยู่ในประเทศไทย ขณะนี้พบสายพันธุ์ A มากกว่าสายพันธุ์ B และสายพันธุ์ A ที่พบในประเทศไทย จากการศึกษาของศูนย์ที่ทำอยู่ พบว่าเป็น H3N2 มากกว่า H1N12009 แต่การระบาดทั่วโลกจะพบ H1N12009 มากกว่า H3N2 ยกเว้นในเอเชียบางประเทศ ที่เป็น H3N2
สำหรับไข้หวัดใหญ่ B ที่พบทั่วโลกขณะนี้ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ Victoria เช่นเดียวกับที่พบในประเทศไทยก็เป็นสายพันธุ์ Victoria ทั้งหมด ส่วนไข้หวัดใหญ่ปีสายพันธุ์ B Yamagata ไม่พบในโลกนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 หรือเกือบ 4 ปีมาแล้ว เช่นเดียวกับประเทศไทย
คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับซีกโลกใต้ ในปีหน้า 2024 ได้ออกมาแล้ว วัคซีนที่ทำมาจากไข่ คือ
H1N1 2009 เป็น A/Victoria
H3N2 เป็น A/Thailand
Flu B เป็น B/Austria (B/Victoria lineage)
ในวัคซีน 4 สายพันธุ์ FluB ก็ยังเป็นตัวเดิม 4 ปีมาแล้วคือ B/Phuket
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO Sep 2023) จากการที่ไม่พบไข้หวัดใหญ่ บี สายพันธุ์ Yamagata มาเกือบ 4 ปีแล้ว จึงมีความเสี่ยงต่ำมาก ก็คงจะไม่มีความจำเป็นที่ต้องใส่ Flu B B/Yamagata อีกต่อไป และพยายามที่จะเอาออกจากวัคซีนต่อไป
จากความเห็นดังกล่าว วัคซีนก็น่าจะเหลือ 3 สายพันธุ์ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของไข้หวัดใหญ่ B อีกครั้ง ก็จะเป็นข้อดีสำหรับประเทศไทยเพราะราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ มีราคาถูกกว่า ชนิด 4 สายพันธุ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ไข้หวัดใหญ่" ก.ย.ป่วย 109,556 คน ขยายฉีดวัคซีนกลุ่มเด็กถึง 5 ปี