กรณีสนามบินเชียงใหม่ เตรียมดีเดย์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เริ่มแสดงความกังวลกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต
นายสุทัศน์ สุวรรณธีรางกูร ชาวบ้านหมู่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า เพิ่มเที่ยวบินและเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเสียงดัง ฝุ่นควัน แรงสั่นแรงสั่นสะเทือน แรงลม จนชาวบ้านใกล้สนามบินบางหลังต้องรื้อกระเบื้องหลังคาออกเพื่อให้ทนต่อแรงงานและทำผนัง 2 ชั้นฉนวน 2 ชั้น เพื่อป้องกันผลกระทบ
อยากจะถามสนามบินว่าแก้ปัญหาอย่างไร จะให้ชาวบ้านแถวนี้ นอนอย่างไร เพราะเวลามีเสียงเครื่องบินขึ้นลงเสียงดัง โดยเฉพาะคนสูงอายุกว่าจะนอนหลับต่อ
ชาวบ้านเรียกร้องแก้ผลกระทบ
ส่วน น.ส.ชวภัช อักษรทองกุล ชาวบ้านชุมชนนิมมานนรดี กล่าวว่า กังวลเรื่องฝุ่นควันจากท่อไอเสียเครื่องบิน ซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ แค่มีฝุ่นจะระบายเคือง แต่พอมีฝุ่นจากในบ้านจากสนามบินก็จะระคายคอมากขึ้น ไม่ใช่ภูมิแพ้เท่านั้นแต่เป็นหอบหืด
ขณะที่พิทักษ์ กรรณิการ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.แม่เหียะ กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐมอนิเตอร์มลพิษจากสนามบินแนวเส้นเสียง เพราะกระทบต่อชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่น หลังคามีรอยร้าวหลังคามีรอยรั่ว และทางท่าอากาศยานมาดูแลประชาชนจริงๆ
ด้านนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ลงพื้นที่เพื่อประเมินผลกระทบจากการเปิดสนามบิน 24 ชั่วโมง
ดีเดย์ 1 พ.ย.เริ่มเปิด 24 ชั่วโมง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายวีซ่าฟรี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป และประเทศอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เตรียมเปิดดำเนินการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ จากเดิมเปิดดำเนินการทำการบิน 18 ชม. หรือตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น.เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินที่จะเดินทางมายัง จ.เชียงใหม่
เที่ยวบินแรก VZ822 ไทย-โอซากะ
สำหรับเที่ยวบินแรกที่จะเริ่มทำการบิน ภายหลังท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดดำเนินการ 24 ชม. นั้น คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ822 เส้นทางเชียงใหม่-โอซากะ ออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 00.30 น.ของวันที่ 1 พ.ย.นี้ ในคืนวันที่ 31 ต.ค.นี้ เดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซากะ เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ ทอท. หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดตารางการบินให้เหมาะสม และเกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด และให้ดำเนินการเป็นไปตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
รวมทั้งให้มีมาตรการในการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ให้ ทอท. จัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้งต่อไป
นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ เช่น สถานที่ บุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวก อีกทั้งให้ประสานระบบขนส่งสาธารณะเพื่อรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เข้าไปยังที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้มีความความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
มอบหมายให้ ทอท.พิจารณาจัดสรรพื้นที่ในท่าอากาศยานเชียงใหม่ ให้วิสาหกิจชุมชนฯ นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
คาดผู้โดยสารเดินทาง 4,800 คนต่อวัน
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมพร้อม เพื่อเปิดให้บริการ 24 ชม.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สายการบิน และผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้ครอบคลุมเวลาเปิดให้บริการ
โดยคาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศของท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปัจจุบันมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเฉลี่ยประมาณ 4,800 คนต่อวัน มีเส้นทางระหว่างประเทศ 20 เส้นทาง และมีเที่ยวบินระหว่างประเทศขาเข้าและขาออก (เที่ยวบินปกติ-เที่ยวบินพิเศษ) รวม 36 เที่ยวบินต่อวัน
สำหรับ จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเที่ยวบินระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก ดังนั้นการขยายเวลาการเปิดให้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็น 24 ชม.
ถือเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดด้านเวลาที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว รองรับเที่ยวบินระยะกลางหรือระยะไกล ที่ใช้เวลาบินออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่หลังเวลา 24.00 น. เพื่อไปถึงประเทศปลายทางในตอนเช้า รวมถึงเป็นการเพิ่มตารางการบิน (Slot) และเที่ยวบินให้สายการบินมีทางเลือกในการจัดตารางการบินด้วย