วันนี้ (31 ต.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดจัดเก็บรายได้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยรวมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพิ่มขึ้นเกินเป้าหมาย จาก 7,000 ล้านบาท เป็น 12,000 ล้านบาท
แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งข้อสังเกตว่า หอพัก อะพาร์ตเมนต์ และห้างสรรพสินค้า ซึ่งใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์และแปลงขนาดใหญ่ แต่ยอดการจัดเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างประเภทนี้ กลับลดลง และพบว่าผู้ประกอบการบางส่วนชำระภาษีลดลง เพราะเจ้าหน้าที่ประเมินภาระภาษีจากสภาพความเก่าของอาคาร และใช้ช่องว่างกฎหมายจัดสรรพื้นที่ทำการเกษตรเล็กๆน้อยๆ ขณะที่หอพักกลับจ่ายภาษีประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวมาจากช่องว่างระบบ จึงต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อทบทวนหลักเกณฑ์ลดช่องว่างดังกล่าว และอาจพิจารณาปรับอัตราการจัดเก็บภาษีการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภทใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
ทั้งนี้ อัตราการจัดเก็บภาษีทีดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในขณะนี้ กำหนดอัตราการจัดเก็บแบบผ่อนปรนเพื่อลดความตื่นตระหนกในตลาดจากการบังคับใช้กฎหมายใหม่ แต่เงื่อนไขดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดในปี 2566 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหาข้อสรุปการปรับหลักเกณฑ์และอัตราการจัดเก็บใหม่ให้ทันบังคับใช้ในปี 2567
อ่านข่าวอื่นๆ
กกพ.ส่งสัญญาณค่าไฟต้นปี 67 อาจทะลุ 4 บาท/หน่วย