วันนี้ (1 พ.ย.2566) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ ข้าวเบายอดม่วงตรัง ซึ่งเป็น GI รายการที่ 3 ของ จ.ตรัง ต่อจากพริกไทยตรัง และหมูย่างเมืองตรัง ที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้
มั่นใจว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน และสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อปี
จุดเด่นข้าว 2 สี-ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ
สำหรับข้าวเบายอดม่วงตรัง เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองประจำถิ่นที่คนตรังรู้จักกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการเก็บรักษาสายพันธุ์ข้าวมากว่า 100 ปี มีลักษณะเด่น คือ ในหนึ่งกอข้าวเปลือกจะมีหลายสี แรกเริ่มสีเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวจะมีสีม่วงคล้ายสียอดมะม่วง จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวเบายอดม่วงตรัง สัมผัสของข้าวเมื่อหุงแล้วมีเหนียวนุ่ม ไม่กรุบหรือกระด้าง เคี้ยวง่าย ไม่ฝืดคอ
ข้าวเบายอดเมืองตรัง มีคุณสมบัติโดดเด่นตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เพราะเป็นข้าวที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูงกว่าข้าวทั่วไป มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงทำให้ข้าวเบายอดม่วงตรังเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งคนในจังหวัด กลุ่มคนที่สนใจเรื่องสุขภาพและกลุ่มคนทั่วไป
ด้าน น.ส.สุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศรับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้า “ข้าวเบายอดม่วงตรัง” ทะเบียนเลขที่ สช 66100212 ประกาศ ณ วันที่ 3 ต.ค.2566 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน 14 ก.ย.2565 ลำดับที่ 3 ของจังหวัดตรัง
“ข้าวเบายอดม่วงตรัง ” (Bao Yod Muang Trang Rice) คือ ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และข้าวขัดขาว เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง ข้าวกล้องมีเยื่อหุ้มเมล็ด 2 สี คือสีแดงและสีขาวขุ่นคล้ายสีข้าวเหนียว เป็นข้าวเพื่อสุขภาพ เมล็ดสีแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูง เมล็ดสีขาวให้ความนุ่มเมื่อหุงสุกแล้ว เมล็ดข้าวมันวาว เหนียวนุ่มไม่กรุบหรือกระด้าง ปลูกและผลิตในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง
โดยหลังจากนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จะเข้าไปขับเคลื่อนการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้า GI สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค ตลอดจนส่งเสริมประชาสัมพันธ์ ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และให้ความสำคัญกับการตลาดยุคใหม่ เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของจ.ตรัง