วันนี้ (2 พ.ย.2566) กลุ่มรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะทั้งรถตู้ รถมินิบัส รถเมล์ รถโดยสาร และรถสองแถว กว่า 500 คัน เดินทางมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เรื่องความเดือดร้อนราคาค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ โดยมี น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษา รมว.พลังงาน เป็นผู้แทนรับหนังสือ พร้อมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการถึงความเดือดร้อน
นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดเผยว่า สภาพคล่องของกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารสาธารณะยังไม่ฟื้นตัวตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากปัญหา COVID-19 โดยจำนวนผู้โดยสารลดลงมาก ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อและการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารลดการใช้รถโดยสารธารณะลดลง
นอกจากนี้ ยังเผชิญกับต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 19.59 บาท เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย.2566 ยิ่งซ้ำเติมกลุ่มผู้ประกอบการอย่างหนัก ทำให้บางรายต้องหยุดเดินรถ ส่งผลให้จำนวนตู้โดยสารสาธารณะหายไปจากระบบเกือบ 1, 000 คัน จากกว่า 2,000 คัน
นายปัญญา กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานช่วยเหลือด้วยการลดราคาขายก๊าซเอ็นจีวี ให้เหลือกิโลกรัมละ 12.74 บาท และขยายเวลาการใช้บัตรส่วนลดเพิ่มเติมอีก 2 ปี รวมทั้งยกเลิกกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวี ที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซลของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ภายหลังการหารือกับกระทรวงพลังงาน จะให้กรอบระยะเวลาของคำตอบกับผู้ประกอบการ ก่อนที่ภาครัฐจะปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีอีกครั้ง
ทั้งนี้ แนวทางเดิมของคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน จะเพิ่มราคาก๊าซเอ็นจีวีขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ รวมขึ้นราคากิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้ราคาขายอยู่ที่ 20.59 บาท