ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตร.เตรียมออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายช่วย "เสี่ยแป้ง" หลบหนี

อาชญากรรม
7 พ.ย. 66
18:05
885
Logo Thai PBS
ตร.เตรียมออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายช่วย "เสี่ยแป้ง" หลบหนี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เจ้าหน้าที่เตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมผู้เข้าข่ายร่วมทีมช่วยเหลือ "เสี่ยแป้ง" หลบหนีจากการควบคุม ขณะที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 คนที่มีหมายจับออกจากราชการไว้ก่อน

วันนี้ (7 พ.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง" นักโทษที่หลบหนีจากการควบคุม ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

ล่าสุด พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน แม้ว่าผู้ต้องหาคือ นายสุธิวัส หรือ หนอน และนายจักรี หรือ บิ๊ก จะซัดทอดระหว่างกัน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นปัญหาต่อรูปคดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้แล้ว ซึ่งชี้ชัดว่าใครเป็นผู้ขับรถยนต์ รวมทั้งหลักฐานดีเอ็นเอที่ได้จากในรถมีความครบถ้วนสมบูรณ์

ส่วนการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สมชาย บอกได้แต่เพียงว่าอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานทางอิเล็กทรอนิค และหลักฐานที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงอีกเพียงเล็กน้อย เพื่อให้มีน้ำหนักจะสามารถนำไปสู่การออกหมายจับเพิ่มเติมได้อีกอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเกี่ยวข้องในระดับใด

สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมลูกน้องและเครือข่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือหลบหนีแล้ว 7 คน ส่วนกลุ่มราชทัณฑ์ หรือผู้คุม ที่ต้องหมายจับมี 3 คนได้เข้ามอบตัวแล้ว

อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 พ.ย.นี้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะประชุมติดตามคดีกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง กองปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรภาค เพื่อติดตามไล่ล่านายเชาวลิตที่ยังหลบหนี

ขณะที่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 และออกหมายจับเจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 คน ซึ่งตนเองได้มีคำสั่งลงนามให้ทั้ง 3 คนออกจากราชการไว้ก่อน และเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามหลักการจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงควบคู่ไปด้วย ซึ่งการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนี้ก็เพื่อพิจารณาเป็นคำสั่งไล่ออกจากราชการ

แต่ในส่วนของผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการส่วนควบคุมของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติราชการอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี ก็จะถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ เช่นเดียวกัน แต่เบื้องต้นทั้งคู่ยังไม่ได้ถูกออกหมายจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังคงปฏิบัติราชการอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ต่อไป

อ่านข่าวอื่นๆ

ตำรวจไซเบอร์จับผู้ต้องหาโพสต์ด่า-ขู่ฆ่า "นายกรัฐมนตรี"

หลอกไปทิ้งบนภูเขา “แรงงานไทยในไต้หวัน” แจ้งความเอาผิดนายหน้า

คาสนามบิน! DSI จับกุมบัญชีม้ารายใหญ่ ส่งเงินเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย UFA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง