ตอนนี้องค์การสหประชาชาติเรียกโรงพยาบาลแห่งนี้ว่าเป็นเขตมรณะ สิ้นสภาพการเป็นที่ดูแลรักษาชีวิตผู้คน ขณะที่อิสราเอลออกมาเผยภาพอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลในกาซา ซึ่งชี้ให้เห็นว่าถูกใช้เพื่อการดำเนินการของกลุ่มฮามาส
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2566 กองทัพอิสราเอลเผยแพร่ภาพที่บันทึกได้ โดยระบุว่าสามารถค้นพบอุโมงค์ความยาว 55 เมตร ซึ่งอยู่ลึกลงไป 10 เมตรใต้โรงพยาบาลอัล-ชีฟาได้ โดยอุโมงค์แห่งนี้มีทั้งบันได ประตูกันระเบิด รวมไปถึงหลุมยิงที่ใช้เพื่อสกัดกั้นกองกำลังของอิสราเอล ซึ่งปล่องของอุโมงค์นี้อยู่ในส่วนหนึ่งของอาคารของโรงพยาบาลที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งพบยานพาหนะคันหนึ่งบรรทุกอาวุธไว้เป็นจำนวนมาก
ภาพอุโมงค์ลับที่กองทัพอิสราเอลอ้างว่าอยู่ใต้ รพ.อัล-ชีฟา
ด้านกองทัพ ระบุว่า จะยังขุดคุ้ยเส้นทางในอุโมงค์นี้ต่อไป และการค้นพบนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าอาคารจำนวนมากในบริเวณโรงพยาบาลนั้นถูกกลุ่มฮามาสใช้เพื่อปกปิดโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินการต่างๆ ของผู้ก่อการร้าย
ขณะเดียวกันกองทัพอิสราเอลยังได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลอัล-ชีฟา โดยระบุว่า เป็นภาพที่กลุ่มฮามาสนำตัวประกันจากอิสราเอลเข้าไปในโรงพยาบาลดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่สงครามเปิดฉากขึ้น โดยโฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่า ไม่ใช่แค่เพียงทหารหญิงของอิสราเอลเท่านั้นที่ถูกจับเป็นตัวประกันและนำตัวมาที่นี่ แต่ทางกองทัพยังพบร่างชาวไทย 1 คน และ ชาวเนปาลอีก 1 คนด้วย
โฆษกกองทัพอิสราเอลชี้มีการจับตัวประกันชาวอิสราเอล เมื่อวันเริ่มต้นสงคราม
นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไปแล้วประมาณ 240 คน ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คณะผู้ไกล่เกลี่ยของกาตาร์ อยู่ระหว่างการเจรจาทำข้อตกลงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยข้อเสนอล่าสุดคือ กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันประมาณ 50 คนที่อยู่ในกาซา เพื่อแลกกับการหยุดยิง 3 วัน และ อิสราเอลจะปล่อยตัวผู้หญิงและเด็กชาวปาเลสไตน์บางส่วนออกจากเรือนจำของอิสราเอล รวมทั้งเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซา
ซึ่งนายกฯ กาตาร์ เปิดเผยว่า อุปสรรคสำคัญต่อข้อตกลงนี้มีน้อยมากๆ เช่นเดียวกับทำเนียบขาวที่ระบุว่าการเจรจาที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากๆ นี้กำลังคืบหน้า
แพทย์เตรียมอพยพทารกคลอดก่อนกำหนดไปอียิปต์
ขณะที่สถานการณ์ด้านการแพทย์ในกาซายังคงวิกฤต โดยบรรดาเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดในโรงพยาบาลอัล-ชีฟา 31 คน ได้ถูกอพยพไปดูแลยังหน่วยพยาบาลบริเวณด่านราฟาห์แล้ว ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลในอียิปต์ในวันนี้ (20 พ.ย.2566) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งแพทย์ผู้ดูแล เปิดเผยว่ามีทารกคลอดก่อนกำหนดเสียชีวิตไปแล้ว 6 คน เนื่องมาจากการขาดแคลนน้ำสะอาด อาหาร เวชภัณฑ์ รวมไปถึงกระแสไฟฟ้าในโรงพยาบาล
ทารกแรกเกิดใน รพ.อัล-ชีฟา
ด้านองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า ทีมงานผู้ทำการประเมินสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม ได้ลงพื้นที่ที่ รพ.อัล-ชีฟา และยังคงพบเห็นการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกโรงพยาบาลแห่งนี้ว่าเป็น Death zone หรือ เขตมรณะ และ สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าสิ้นหวังแล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลไม่สามารถทำหน้าที่เป็นสถานพยาบาลได้อีกต่อไป เพราะขาดแคลนน้ำสะอาด เชื้อเพลิง ยารักษาโรค และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ทีมงานสามารถอยู่ภายในโรงพยาบาลได้เพียง1 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย
บริเวณด้านนอก รพ.อัล-ชีฟา ทั้งประชาชนผู้ผลัดถิ่นและคนป่วยอยู่ร่วมกัน
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขที่ฮามาสเป็นผู้ดูแลเปิดเผยว่า นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้น มีผู้เสียชีวิตในกาซาไปแล้ว 13,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5,500 คน ผู้หญิง 3,500 คนและมีชาวปาเลสไตน์บาดเจ็บอีก 30,000 คน
ชาวกาซาเผชิญลม-ฝนซ้ำเติมความลำบาก
ส่วนบรรดาผู้พลัดถิ่นในคานยูนิส ต้องช่วยกันนำอุปกรณ์มากันฝน หลังเผชิญกับลมและฝนฤดูหนาวที่ตกลงมาอย่างหนักจนส่งผลให้ข้าวของภายในเต็นท์ ทั้งของใช้และเสื้อผ้าเปียก ยิ่งส่งผลให้การใช้ชีวิตท่ามกลางภาวะสงครามลำบากมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้มีชาวกาซาถึง 2 ใน 3 ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากสงครามที่เกิดขึ้น
ผู้พลัดถิ่นในคานยูนิส นำอุปกรณ์มากันฝน หลังเผชิญกับลมและฝนฤดูหนาว
ส่วนที่บริเวณจุดผ่านแดนราฟาห์ยังคงมีรถบรรทุกขนสิ่งของช่วยเหลือเข้าไปในกาซาอย่างต่อเนื่อง และมีผู้อพยพอีกจำนวนหนึ่งเดินทางข้ามไปยังฝั่งอียิปต์
รถส่งสาธารณูปโภคของ UN ที่ด่านราฟาห์
ส่วนสถานการณ์การสู้รบบริเวณทางตอนเหนือของอิสราเอลกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ได้เผยภาพระบุว่า สามารถโจมตีเป้าหมายของอิสราเอลได้ ซึ่งสื่อท้องถิ่น รายงานว่ามีการปะทะเกิดขึ้นบริเวณแนวพรมแดนอิสราเอล-เลบานอนอีกครั้ง
ด้านกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า กลุ่มฮูตีได้ยึดเรือบรรทุกสินค้าที่มีอังกฤษเป็นเจ้าของบริเวณทางตอนใต้ของทะเลแดงซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำการก่อการร้ายของอิหร่านและส่งผลตามมาต่อความมั่นคงทางทะเลระหว่างประเทศ
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮูตีได้ขยายวงกว้างมากขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮูตีออกมาประกาศพร้อมที่จะร่วมมือโจมตีอิสราเอลจนกว่าอิสราเอลจะหยุดพฤติกรรมคุกคาม ซึ่งสื่อถึงการโจมตีกลุ่มฮามาสในเขตกาซา