เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2566 กองทัพอิสราเอลเผยภาพระบุว่า เป็นภาพที่ทหารอิสราเอลกำลังช่วยอพยพทารกคลอดก่อนกำหนดออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา เพื่อออกจากกาซาและไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลในอียิปต์ หลังจากที่ได้รับการอพยพมารับการรักษาต่อที่ราฟาห์แล้ว
รถพยาบาลนำทารกคลอดก่อนกำหนดอพยพสู่ด่านราฟาห์ข้ามแดนไปอียิปต์
อ่าน : วิกฤต รพ.อัล-ชีฟา สถานพยาบาลกลายเป็น "Death zone"
ล่าสุดทางองค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่าได้มีการเคลื่อนย้ายทารกคลอดก่อนกำหนดทั้งหมด 28 คนเข้าไปในอียิปต์เรียบร้อยแล้ว ส่วนจำนวนทารกคลอดก่อนกำหนดทั้งหมดที่ได้รับการอพยพออกมาจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟามีทั้งสิ้น 31 คน ซึ่ง 3 คนที่เหลือที่ไม่ได้ถูกส่งตัวต่อไปยังอียิปต์ แต่กำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอิมิราติ ทางตอนใต้ของกาซา
รถพยาบาลนำทารกคลอดก่อนกำหนดอพยพสู่ด่านราฟาห์ข้ามแดนไปอียิปต์
ทารกทุกคนกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อร้ายแรงและสภาวะอื่นๆ
ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลแบบเฉพาะทาง
อิสราเอลโจมตีกาซาเสียชีวิตทะลุ 13,300 คน
ส่วนที่เมืองคาน ยูนิส ยังคงเผชิญกับการโจมตีทางอากาศ มีผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าการโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และยังคงมีส่วนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง รวมทั้งยังทำให้บ้านเรือนเสียหายไม่น้อย
นับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้น ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 13,300 คน
ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5,600 คน และผู้หญิง 3,550 คน
ขณะที่โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของกาซา ระบุว่าการปิดล้อมโรงพยาบาลอินโดนีเชียนของอิสราเอลในขณะนี้ ทำให้โรงพยาบาลกำลังตกอยู่ในวงล้อมแห่งความตายและถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 12 คน และ มีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากที่อาการสาหัส หลังจากที่อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลแห่งนี้และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมากขึ้นไปอีก เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการทางการแพทย์ใดๆ ได้
ภาพถ่ายทางอากาศ รพ.อินโดนีเชียน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย ระบุว่า ไม่สามารถติดต่อกับอาสาสมัครชาวอินโดนีเซีย 3 คนที่โรงพยาบาลแห่งนี้ได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ร่วมตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อปี 2559
อ่าน : อนามัยโลกกำหนดให้ รพ.อัล-ชีฟา เป็นพื้นที่อันตราย
ขณะที่ประชาชนในกรุงเทลอาวีฟ ต้องรีบหาที่หลบภัยท่ามกลางเสียงสัญญาณเตือนที่ดังไปทั่วเมือง หลังจากระบบป้องกันภัยของประเทศสามารถสกัดกั้นจรวดไว้ได้
ส่วนสถานการณ์บริเวณพรมแดนอิสราเอลและกาซา ยังคงพบเห็บกลุ่มควันจากการโจมตีปะทุอยู่อย่างต่อเนื่อง ภายในเขตกาซา นับตั้งแต่ที่อิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการโต้กลับกลุ่มติดอาวุธฮามาส กองทัพอิสราเอลเผยภาพปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นของโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮามาสและคลังอาวุธรวมทั้งยังสามารถสังหารผู้บังคับบัญชาได้อีก 3 คน
การสู้รบยังคงดำเนินไปไร้หนทางยุติ
นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลได้นำอาวุธและสิ่งต่างๆ ที่ยึดได้จากกลุ่มฮามาสมาเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยอาวุธที่ถูกยึดมามีทั้งเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี ระเบิดสุญญากาศ จรวด และอาวุธอื่นๆ รวมถึงยานพาหนะและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับข้ามเข้าไปยังอิสราเอล