วันนี้ (22 พ.ย.2566) ความคืบหน้าการติดตามสถานการณ์ขอทานชาวจีน ตำรวจนครบาลจรเข้น้อย พร้อมทีมงาน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ตลาดนัดสุวรรณภูมิ หลังมีพลเมืองดีส่งคลิปวิดีโอมาแจ้งเบาะแส โดยคนที่อยู่ในคลิปมีลักษณะใบหน้าผิดรูป ตาบอด และนั่งขอเงินคล้ายคนที่เดินไม่ได้ แต่เมื่อพบว่ามีคนถ่ายคลิปก็ลุกเดินเพื่อหลบหนี
นายกัณฐัศว์ ลงพื้นที่อีกครั้งช่วงเย็นปรากฏว่า มีผู้แจ้งเบาะแสพบขอทานจีนเป้าหมายไปนั่งขอทานที่ตลาดไอซีดี ลาดกระบัง ห่างจากตลาดนัดสุวรรณภูมิประมาณ 50 กิโลเมตร
หลังเกิดปัญหากลุ่มขอทานจีนทำให้มีการตั้งคำถามถึงร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของขอทานชาวจีนที่ถูกจับได้ ซึ่งพบมีลักษณะคล้ายกันคือมีแผลคล้ายไฟไหม้เกือบทั้งตัวรวมถึงมีความพิการที่มือและเท้า
ข้อมูลในโลกออนไลน์ ที่ระบุว่า เคยไปเรียนที่จีนและเคยเห็นขอทานมีบาดแผลจำนวนมาก บาดแผลมี 2 แบบ คือ แผลคล้ายถูกไฟไหม้ทั่วร่างกาย หรือ ถูกน้ำกรด ลักษณะคล้ายมีความตั้งใจทำเกิดบาดแผล เพื่อมาประกอบอาชีพขอทานหรือไม่
อ่านข่าว : แกะรอยเส้นทาง "ขอทาน" ในขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
ความแตกต่าง แผลไฟไหม้ - น้ำกรด
นพ.จุมพฏ อุรุพงศา หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรมโรงพยาบาลตำรวจ อธิบายถึงความแตกต่างของแผลทั้ง 2 แบบว่า โดยทั่ว ๆ ไป หากเป็นบาดแผล ที่เกิดจากไฟไหม้จะเป็นข้างเดียวกัน เช่น ถูกไฟไหม้ข้างซ้าย ก็ต้องเป็นทั้งแขนและขาซ้าย หรือถ้าเป็นทั้ง 2 ข้าง จะต้องมีแผลตามลำตัวด้วย
อ่านข่าว : จับเพิ่มแก๊ง "ขอทานจีน" อีก 1 ย่านลาดกระบังพบเข้าไทยใช้วีซา
ส่วนถ้าเป็นบาดแผลที่เกิดจากน้ำกรด ตามลำตัว มักจะไม่เป็นแผลทั้งหมด เพราะมีเสื้อผ้าป้องกันจะเป็นแผลเฉพาะจุด เมื่อถามว่า แผลทั้ง 2 แบบที่กล่าวมา ทำให้มือพิการ หรือมือด้วน ได้หรือไม่ แพทย์ระบุว่า เป็นได้ทั้ง 2 กรณี ถ้าหากเนื้อตายก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง
กรณีนี้ไม่ยืนยันว่า บาดแผลตามร่างกายของขอทานจีน เกิดจากอุบัติเหตุ หรือ ความตั้งใจทำให้ร่างกายเกิดบาดแผล เพื่อประโยชน์ในการขอทาน เพราะหากเทียบกับ ความเจ็บปวดแล้ว แพทย์ระบุว่า ใช้เวลาในการรักษาร่างกายนานหลายปีกว่าเนื้อใหม่จะขึ้นมาทดแทน ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้จะทรมานกว่าโรคอื่น ๆ เพราะต้องผ่านการผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน และต้องใช้เงินรักษามากกว่า 1,000,000 บาท ขึ้นไป
อ่านข่าวอื่น ๆ