ถ้าย้อนไปตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน วันที่ 25 พ.ย. นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.สระแก้ว เพื่อติดตามงานและตรวจเยี่ยมงาน 3 จุดที่ อ.อรัญประเทศ โดยเฉพาะบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ที่ไปเร่งรัดการก่อสร้างอาคารศุลกากร เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หลังถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน และพยายามเร่งรัดเพื่อให้เปิดใช้งานได้โดยเร็ว
กลับกรุงเทพฯ มาพัก 1 วัน เช้าวันจันทร์
เช้าวันจันทร์ที่ 27 พ.ย.นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา กำหนดการระบุว่า จะพบกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะเร่งรัดถนนเชื่อมด่านสะเดา สร้างสะพานสุไหงโก-ลก เชื่อมประเทศมาเลเซีย
ที่ด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย มีการหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก และฟังรายงานความคืบหน้า การพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย รวมถึงสถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน
จากนั้นนายกฯ ทั้งสองประเทศ มอบนโยบาย และไปสำรวจจุดเชื่อมถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย ก่อนจะรับประทานอาหารร่วมกัน
เย็นวันที่ 27 พ.ย. นายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ จากหาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยัง จ.สุโขทัย ในกำหนดการระบุว่า เพื่อติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย และร่วมงานลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ พร้อมชมการแสดง แสง เสียง ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และเดินทางกลับกรุงเทพฯ คืนนี้
พรุ่งนี้ เช้าวันที่ 28 พ.ย.นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ช่วงค่ำ เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมพิธีลอยกระทง และชมการประกวดขบวนกระทงหญิง ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ และพักที่ จ.เชียงใหม่
รุ่งขึ้น วันที่ 29 พ.ย.นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมหารือ แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมทั้งปล่อยขบวนคาราวาน ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่
จากนั้น ช่วงบ่าย นายกฯ เยี่ยมชมพื้นที่โครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติล้านนา ก่อนเดินทางไปหารือแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ด้วยซอฟเพาเวอร์ ที่ อ.สันกำแพง
ช่วงค่ำนายกฯ ร่วมชมการแสดง “ต่อยอดแสงหลวง บวงสรวงมหาเจดีย์ ป๋าเวียงเปิง ประจำปี 2566” ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่
เช้าวันที่ 30 พ.ย.นายกฯ เดินทางลงพื้นที่ จ. อุตรดิตถ์ เยี่ยมชมโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
บ่ายวันเดียวกัน เยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ของจังหวัด เช่น โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค, โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เป็นต้น ณ ที่ว่าการอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
เช้าวันที่ 1 ธ.ค.นายกฯ เยี่ยมชมโรงหล่อพระบูรณะไทย ที่จ.พิษณุโลก ก่อนเดินทางขึ้นเครื่องบินจาก จ.พิษณุโลก ไปยังสนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดศูนย์บริการด้านการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต
และพักที่บ้านพักส่วนตัวที่ จ.ภูเก็ต 1 วัน
จากนั้นวันที่ 3 ธ.ค.นายกรัฐมนตรีเดินทางจาก จ.ภูเก็ต ไปยัง จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู โดยมีกำหนดการลงพื้นที่ 2 จุดที่ อ.นากลาง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด และพื้นที่ อ.สุวรรณคูหา
ช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค. นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.หนองบัวลำภู
วันที่ 6 ธ.ค.นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมสัมมนากับพรรคเพื่อไทย ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยนายกฯ จะพักค้างคืน ที่จ.นครราชสีมา ด้วย
จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 7 ธ.ค.นายกฯ ร่วมประชุมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยเป็นวันที่สอง ก่อนช่วงบ่ายเดินทางกลับกทม.
เช้าวันที่ 9 ธ.ค.นายกฯ จะเดินทางไป จ.กาญจนบุรี เพื่อดูเส้นทางมอเตอร์เวย์, ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และการสร้างอุโมงค์ผันน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง
รวมเวลา 13 วัน ที่นายกฯ เดินสายไปหลายจังหวัด และกลับกรุงเทพฯ เพียง 2 วัน
ทำให้หลายคนสงสัยว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ แต่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ก็ออกมาบอกว่า ไม่มีนัยยะอะไรในทางการเมือง แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดี ที่ควรทำ
และนายกรัฐมนตรียังรู้จักพื้นที่ไม่มากพอ จึงอยากมีโอกาสได้สัมผัสกับประชาชนด้วยตัวเอง ไปรับฟังความรู้สึก ปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ด้วยตัวเอง
ส่วนที่ลงพื้นที่คู่ขนานกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการปูทาง เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่พร้อมนายกฯ แค่บางครั้ง ซึ่งภารกิจของ น.ส.แพทองธารคือเน้นในเรื่องของซอฟเพาเวอร์ ซึ่งหากจะทำได้ดีต้องลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง
รัฐบาลมีเวลาอีกนาน 3 ปีกว่า ยังไม่รีบร้อน และขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เข้ามาประชุมร่วมกับรัฐบาลในคณะต่าง ๆ ก็ได้รับรู้ ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนมากอยู่แล้ว ซึ่งการได้มาทำงานโดยมีเป้าหมายในการทำงานให้กับประชาชน ถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีอยู่แล้ว และที่ผ่านมา น.ส.แพทองธารได้ลงพื้นที่เกือบทุกที่ ตอนหาเสียงเลือกตั้งอยู่แล้ว
อ่านข่าวอื่นๆ
กกต.เปิดสถิติร้องเรียนเลือกตั้ง สส. พบตัวเลขปี 66 น้อยกว่าปี 62
นายกฯ เล็งต่อยอดลอยกระทงเป็น World Class Festival - "ลุงตู่" ขอทุกคนเจ้าบ้านที่ดี