จากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ วางกฎ ห้ามคิดดอกเกิน 15 %/ปี รับไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ แต่มั่นใจหากเศรษฐกิจดี ประชาชนไม่กลับเป็นหนี้ซ้ำ
นายกฯ เชื่อหนี้นอกระบบมากกว่า 5 หมื่นล้าน
วันนี้ (28 พ.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลง ถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นปัญหากัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของคนไทย วันนี้เราจะเอาจริง กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ คืนศักดิ์ศรี สร้างความมั่นคงให้กับคนไทยทุกคน โดยจะร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับครัวเรือนถึงระดับมหภาค ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ให้กลับไปเป็นหนี้ซ้ำ
ที่ผ่านมามีการประเมินตัวเลขประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ กว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมองว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป แต่ปัญหาจริงน่าจะมากกว่านั้น
กลุ่มคนที่เป็นหนี้ ไม่สามารถแม้กระทั่งจะฝัน ถูกปิดโอกาสการเติบโต ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน จึงถือว่าเรื่องหนี้นอกระบบ คือการค้าทาสยุคใหม่ พรากอิสรภาพไปจากผู้คน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลได้บูรณาการหลายภาคส่วน โดยจะรับบทเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ทั้งเรื่องดอกเบี้ยที่แพงเกิน การทวงหนี้ที่รุนแรง เพื่อทำให้ลูกหนี้มีอากาศหายใจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ทำข้อมูลกลาง แก้ร่วมกันไม่ให้ซ้ำซ้อน
ยืนยันว่าจะดำเนินการไม่ให้ซับซ้อน มีขอบเขตตั้งแต่ต้นจนจบ ทำถังข้อมูลกลาง มีตัวเลขตรวจสอบได้ มีวิธีเข้าสู่กระบวนการสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยถูกต้อง ผมได้ฝากให้ 2 หน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ ทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งหลังไกล่เกลี่ย รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็จะเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ให้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแก้หนี้ครั้งนี้ ไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ แต่มั่นใจว่าเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะทำให้ประชาชนมีรายได้ ไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีก และรายย่อยก็สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
วันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะแถลงแก้หนี้แบบครบวงจร ทั้งในและนอกระบบ จะทำให้โครงการนี้ปลดปล่อยประชาชน จากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ
ส่วนเกณฑ์การไกล่เกลี่ย มีการกำหนดเพดานการคิดดอกเบี้ยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามคิดเกิน 15 % ต่อปี ซึ่งต้องดูว่า ตั้งแต่เป็นหนี้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ หากจ่ายเกินไปแล้วก็ต้องยกเลิกต่อกัน และยืนยันว่า มาตรการที่จะดำเนินการนี้ไม่เหมือนในอดีต เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานแบบบูรณาการ แต่ครั้งนี้จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น
สำหรับฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องมีเจ้าหนี้มาเจรจา และจะมีกระทรวงการคลังเข้ามา ซึ่งขออย่าลืมว่า ก็ยังมีการแก้ไขหนี้ในระบบอีกด้วย ที่จะทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ทำให้การกลับมาเป็นหนี้ยากยิ่งขึ้น
ถ้าจะพูดว่าไม่ให้กลับมาเป็นหนี้อีกเลย คิดว่าจะลำบาก แต่ต้องมีความเป็นธรรม ตามที่กฎหมายกำหนด การที่เรามีความร่วมมือวันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี นำทุกภาคส่วนมาบูรณาการ มาแก้ไขปัญหา คงไม่ใช่ว่าเรามองไม่เห็นปัญหา เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งในวันนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เรื่องนี้เราให้ความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล ยังมีอีกมากในเรื่องของการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่ขั้นตอนแรกเราต้องลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และวันที่ 8 ธ.ค.ก็จะประชุมร่วมกันระหว่างนายอำเภอกับผู้กำกับทั่วประเทศ มีการกำหนดเคพีไอชัดเจน ติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง คงไม่เหมือนสมัยก่อนที่ทำกันมา
ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพล ที่อาจทำให้ประชาชนไม่กล้าเข้ามาไกล่เกลี่ย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการอยู่แล้วว่าเราไม่ยอมรับ ผู้มีอิทธิพลนอกระบบ หรือมาเฟีย ก็ต้องบริหารจัดการไป บ้านเมืองมีกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยที่คิดไว้ก็ต้องชัดเจน จึงต้องเรียกมาคุยทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ทั้งฝ่ายปกครองและความมั่นคง
มท.รับลูกบูรณาการแก้หนี้นอกระบบ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทยกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย จะบูรณาการตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้มีความใกล้ชิดกับประชาชน จึงจะเป็นจุดที่จะบูรณาการความร่วมมือกับทั้งตำรวจและกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมแก้ปัญหาคลายทุกข์ให้กับประชาชน
โดยกระทรวงมหาดไทยจะทำงานบริหารเชิงพื้นที่ ด้วยบุคลากรนายอำเภอ กับผู้กำกับการสถานีตำรวจ ช่วยเหลือลูกหนี้ ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม ปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด ร่วมกันทำอย่างโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
กระทรวงมหาดไทย ขอเชิญประชาชนที่ประสบปัญหาทั้งถูกข่มขู่ คุกคาม ดูหมิ่น กระทำโดยไม่เป็นธรรม หรือแม้กระทั่งอยากปรับจากหนี้นอกระบบ มาเป็นหนี้ในระบบ มายังศูนย์ดำรงธรรม ทั้งที่อำเภอและจังหวัดทุกแห่ง
ส่วนใครที่หวั่นเกรงผู้มีอิทธิพล ได้สั่งให้กรมการปกครอง ออกสำรวจ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.
ตำรวจเดินหน้าหนุนแก้หนี้
ด้าน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย จับกุมสืบสวนดำเนินคดี จากสภาพปัญหา เราเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกทวงหนี้ โดยตำรวจมีสายด่วน 1599 รับแจ้งเหตุ ที่ผ่านมาได้เอกซเรย์พื้นที่ ขึ้นบัญชีผู้ประกอบการนอกระบบ ทั้งระดับ S ,M และ L เพื่อบังคับใช้กฎหมาย
ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจับกุมไปแล้วกว่า 134 ราย เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น เครือข่ายรับจำนำรถยนต์เป็นต้น
ขณะที่ นายกฤษฎา ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ให้ข้อสั่งการ เพื่อดูแลประชาชนที่เป็นลูกหนี้ หลังปรับโครงสร้าง โดยเราจะเข้ามาดูแลด้วยธนาคารของรัฐ ที่มีเครื่องมือหลายอย่าง เช่นการให้กู้รายละ 5 หมื่นบาท หรือสินเชื่ออาชีพอิสระเพื่อรายย่อย ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ส่วนที่ดินที่ติดจำนอง ก็สามารถมารีไฟแนนซ์ มีวงเงินรองรับสำหรับเกษตรกร อีกทั้งมีช่องทาง พิโกไฟแนนซ์ สำหรับธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งมีมาลงทะเบียนแล้วกว่า 1 พันราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน" เดินหน้าแก้หนี้นอกระบบ เน้นไกล่เกลี่ย - ดึงสถาบันการเงินรีไฟแนนซ์
นายกฯเห็นชอบหลักการ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่
ยิ้มแก้มปริ!จ่ายแล้วไร่ละ1,000 บาทให้ ชาวนา 4.68 ล้านครัวเรือน