สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ขยายวงกว้าง

เจ้าหน้าที่แลเพนียดคล้องช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งนำช้างออกจากเพนียดไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังน้ำในแม่น้ำลพบุรีที่มาบรรจบกับแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้น และไหลเข้าท่วมภายในเพนียดอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อคืนนี้

 

ประธานชมรมคชบาลแลเพนียดคล้องช้างเปิดเผยว่า การระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในจังหวัดชัยนาทในปริมาณมากเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ทำให้น้ำเข้าท่วมเพนียดอย่างรวดเร็ว จนช้างไม่สามารถอยู่ได้ แม้ก่อนหน้านี้จะพยายามเตรียมการรับมือแล้วก็ตาม

 

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในตัวอำเภอพระนครศรีอยุธยาพบว่า พื้นที่รอบริมแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมสูงเหนือหัวเข่า โดยเฉพาะบ้านริมแม่น้ำป่าสักในอำเภอท่าเรือ บางจุดถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร

 

ขณะที่ทหารหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษและศูนย์การทหารปืนใหญ่เร่งนำกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบลของอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี หลังพนังคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสักในอำเภอบ้านหมี่ ซึ่งรองรับการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ไม่สามารถต้านกระแสน้ำเชี่ยวได้ และพังทลายเมื่อเช้านี้ (12 ก.ย.) ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลท่วมพื้นที่

 

ส่วนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ต้องพยายามใช้เชือกดึงเรือท้องแบนเข้าไปยังบ้านพัก 3 หลังในหมู่ที่ 1 ตำบลไผ่หลวง เพื่อช่วยขนย้ายทรัพย์สิน หลังแม่น้ำน่านไหลทะลัก กัดเซาะจนบ้านทรุด ขณะที่สมาชิกในบ้านย้ายไปอาศัยในที่ปลอดภัยแล้ว

 

เช่นเดียวกับชาวบ้านในตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ล่าสุด ทางอำเภอประกาศเตือนให้ชาวบ้านเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมอีกครั้ง ขณะที่ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง จังหวัดตาก ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม ทำให้ผู้ใช้รถต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

ในหลายจังหวัดทางภาคใต้ก็เกิดน้ำท่วมและดินจากภูเขาเลื่อนไหลปิดทับเส้นทางหลายจุด เช่น ทางหลวงหมายเลข 4006 ในตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ ระหว่างจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง ทำให้รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ล่าสุด สามารถเปิดเส้นทางได้แล้ว

 

ที่จังหวัดพังงาก็เกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางถนนสายเพชรเกษม รอยต่ออำเภอเมืองกับอำเภอทับปุด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนผู้ที่อาศัยอยู่ริมคลองพังงาให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันในระยะนี้

 

เช่นเดียวกับจังหวัดระนองที่เตือนพื้นที่เสี่ยงภัย 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอละอุ่น อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากในตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ เมื่อช่วงเช้า