วันนี้ (3 ธ.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเตะฟุตบอลกับทีมเยาวชนใน อ.สุวรรณคูหา ระหว่างลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ทำให้คลายเครียดลงบ้างหรือไม่ ว่า เมื่อสักครู่ก็ตกใจภายหลังได้ทดลองใช้บริการรถโมบายคลายเครียดจากโรงพยาบาลสวนปรุง เจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่า เรื่องระบบประสาทความบาลานซ์ไม่สมดุลกัน มีเรื่องของความตื่นเต้นและมีสภาวะความเครียดสูง ระดับ very high มีความเหนื่อยล้าของสภาวะร่างกาย วัดเครื่องคลายเครียด แต่เมื่อได้เล่นฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบก็ดีใจและสบายใจขึ้น
เมื่อถามต่อว่าเห็นนายกรัฐมนตรียอมรับผลการตรวจความเครียดแม่นแสดงว่ามีความเครียดใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดำรงตำแหน่งอย่างนี้ และแบกความหวังประชาชน 68 ล้านคนไว้และปัญหาเต็มไปหมดถือเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าไม่เครียดก็คงไม่ใช่คนที่แคร์ แต่ไม่เป็นไรแบกได้ครับ รับได้
พร้อมเปิดเผยว่า ที่ตนแข็งแรงเพราะออกกำลังกายอยู่เสมอ หากมีโอกาสก็วิ่งเล่นหรือออกกำลังกายบ้าง แต่ก็น้อยลงหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำหรับการลงพื้นที่หนองบัวลำภูวันนี้ดีใจถึงแม้วันนี้เป็นวันอาทิตย์ก็ต้องมา เพราะได้สัญญากับนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่าจะเป็นจังหวัดแรกที่จัดประชุม ครม.สัญจร เพราะจังหวัดที่มีรายได้ต่ำที่สุด ดังนั้นจึงอยากมาเห็นปัญหาด้วยตัวเอง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สุขภาพ และยาเสพติด
พร้อมย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาสร้างภาพ แต่อยากจะมาเห็นจริงๆ ซึ่งเห็นแล้วก็อยากทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้ทำงานหนักขึ้น เพราะเราอยู่ในหลายๆ จังหวัดก็สบายกว่าเยอะ ทั้งนี้ขอบคุณ สส.ในพื้นที่ทั้ง 2 คนที่ดูแลประชาชนอย่างดี
ส่วนปัญหาที่หนักที่สุดของนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้คืออะไร หลังยอมรับว่ากำลังแบกภาระหนัก นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาหนักที่สุด แต่มันมีทุกเรื่อง เช่น เรื่องยาเสพติด รายได้ต่อหัว เรื่องหนี้ ฝุ่นPM 2.5 รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาพืชผลทางการเกษตร ทุกเรื่องเป็นปัญหาใหญ่ทั้งนั้น
ปัญหาบางเรื่องก็ไปในทิศทางที่แปลกใจและเศร้าใจ แต่ปัญหายาเสพติดทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นปัญหาหลัก รวมถึงหนี้นอกระบบก็รู้ว่ามีเยอะ แต่ไม่รู้ว่ามีเยอะขนาดนี้
สำหรับการลงทะเบียนขอความช่วยเหลือเรื่องหนี้นอกระบบวันแรกตัวเลขพุ่งสูงกว่า 938 ล้านบาท นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังคงไปอีกไกล เพราะยังมีอีกเยอะมาก และประชาชนหลายพื้นที่อาจไม่ทราบการลงทะเบียน แต่คิดว่าหากเริ่มคิกออฟในวันที่ 8 ธ.ค. ที่จะเชิญทุกฝ่ายมาหารือร่วมกันก็คงจะเริ่มดำเนินการไปหาข้อมูลในแต่ละพื้นที่
ขณะเดียวกันกรณีที่เจ้าหนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือไกล่เกลี่ยเพราะถูกลูกหนี้ หนีด้วยนั้น ก็ต้องนำตัวเลขมาดู เพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว ต้องว่ากันตามกฎหมายแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องอัตราดอกเบี้ย ควรอยู่ในอัตราตามที่กฎหมายกำหนด หากเกินถือว่าผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า
รัฐบาลอยากให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป ไม่ใช่ทำแค่สร้างภาพ และต้องอยู่อย่างหมดไปด้วย ไม่ใช่เดี๋ยวปัญหาเดิมก็กลับมา ทางนี้ยังไม่มีการตั้งเป้าเพราะยังไม่เห็นตัวเลข ต้องขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่เริ่มคิกออฟเลย
ส่วนจะตั้งเกณฑ์ประเมินเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ในแต่ละจังหวัดหรือไม่นั้นต้องพูดคุยกันต่อไป เพราะต้องให้เกียรติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะยังไม่ทราบถึงปัญหาว่าใหญ่ขนาดไหน
ทั้งนี้การประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งที่จะมาช่วยกระตุ้นรายได้ของสถานที่ เพราะเป็นเรื่องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะได้รับ
ยอมรับว่าตกใจคนในพื้นที่มีปัญหาเรื่องพยาธิในถุงน้ำดี เนื่องจากการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขมีการติดตามดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคพลัสจะต้องทำให้ดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กทม.ครองแชมป์ลงทะเบียนหนี้นอกระบบมากที่สุด
ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ 2 วัน 3.7 หมื่นคน ยอดรวม 1.5 พันล้าน