วันนี้ (6 ธ.ค.2566) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้ กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์ สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรม นูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 8/2566)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา
วินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม
"พิธา" หาเสียง ม.112 ขยายเวลา 10 วัน
ส่วนคดีที่ 2 กรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 19/2566 ) นายธีรยุทธ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ.เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
คดีอยู่ในระหว่างศาลรัฐธรรมนูญ ให้พยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสองและพยานผู้เชี่ยวชาญจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ
ซึ่งพยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสอง ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ขอขยายระยะเวลายื่นบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริง หรือความเห็นออกไปอีก 10 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด
ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้ว อนุญาตให้ขยายระยะเวลาถึงวันที่ 18 ธ.ค.นี้ และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
อ่านข่าว ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานบุคคลคดี "พิธาหุ้นสื่อ" 20 ธ.ค.
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ไต่สวน "พิธาถือหุ้นสื่อ" 20 ธ.ค.
ส่วนคดีที่ 3 คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรม นูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรม นูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 23/2566) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประ กอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใด อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)
ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของผู้ถูกร้องว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 วรรคหนึ่ง (2)
และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้อง 19 ก.ค.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามที่ผู้ถูกร้องขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นล่วงหน้าโดยให้จัดส่งภายในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องสำเนาแก่ คู่กรณีฝ่ายอื่น เพื่อทราบก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 7 วัน จากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันที่ 20 ธ.ค.นี้
อนึ่ง การไต่สวนเรื่องพิจารณาที่ 8/2566 ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เรื่องพิจารณาที่ 23/2566 ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ และเรื่องพิจารณาที่ 19/2566 ในวันที่
25 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณี และบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน