เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2566 มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี เซ็นสัญญาคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าเซ็นสัญญาเบื้องต้น 3 เดือนตามวาระของนายกสมาคมคนปัจจุบัน พร้อมกับคาดว่า อิชิอิ ได้ค่าเหนื่อยคนเดียว 700,000 บาท แต่ถ้ารวมกับทีมงานด้วยจะได้เฉลี่ยเกือบ 3,000,000 บาทต่อเดือน
หลังจากเซ็นสัญญา อิชิอิ ได้ประชุมร่วมกับ บริษัท ไทยลีก เพื่อคุยถึงโปรแกรมไทยลีกในเลกที่ 2 เพื่อให้ทีมชาติไทยมีช่วงเวลาเก็บตัวที่เหมาะสมต่อทัวร์นาเมนต์ต่างๆ
ในช่วงต้นปีหน้า อิชิอิ มีภารกิจสำคัญในการนำทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น ในวันที่ 1 ม.ค.2567 ต่อด้วยฟุตบอล เอเชียน คัพ ที่กาตาร์ และ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ต้องพบเกาหลีใต้ 2 เกม และจีน กับ สิงคโปร์ อย่างละ 1 เกม ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรก ถือเป็นเวทีชี้วัดผลงานคุมทีมของกุนซือชาวญี่ปุ่นคนนี้ ระหว่างการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนใหม่ ที่มีมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยเป็นตัวเต็งสำคัญ
ขณะที่ อิรฟาน ดอเลาะ กองกลางกัปตันทีมชุดรองซีเกมส์ ที่กัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กทวงถามว่า "เงินซีเกมส์สรุปจะได้มั้ยครับ" หลังจากต้องรอนานกว่า 6 เดือน และมีนักเตะทีมชาติไทยร่วมแชร์หลายคน นำโดย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และโฟเเบร์ อนันต์ ยอดสังวาลย์
สาเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้า ทั้งที่กีฬาชนิดอื่นได้เงินตั้งเเต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดจากการที่นักเตะ และสต๊าฟโค้ชไทยบางคนได้ทะเลาะวิวาทกับ อินโดนีเซีย ในรอบชิงเหรียญทอง ส่งผลให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยทีมข่าวกีฬาไทยพีบีเอส ได้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด กับ ทีมงานของ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้ง ดร.หญิง สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
ซึ่ง ผู้จัดการกองทุน ย้ำว่า เหลือเพียงขั้นตอนประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนกีฬาในปลายเดือนนี้ ก่อนที่ เงินอัดฉีดจะถูกโอนเข้าบัญชีนักเตะ ภายในเดือน ม.ค.ปีหน้าอย่างแน่นอน
สำหรับเงินอัดฉีดซีเกมส์ เหรียญทองได้คนละ 300,000 บาท , เหรียญเงิน 150,000 บาท และทองแดงได้ 75,000 บาท
ฟุตบอลชายชุดรองแชมป์ซีเกมส์ เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ได้เงินรางวัล โดยนักเตะจะได้คนละ 150,000 บาท , ผู้ฝึกสอนได้ 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินรวมนักกีฬา และสมาคมกีฬาได้ 30 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนเงินทั้งหมดที่นักกีฬาได้รับ รวมทั้งหมดกว่า 4,000,000 บาท
สำหรับทีมชุดซีเกมส์ ถือเป็นกำลังสำคัญของนักเตะชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เตรียมลงแข่งชิงแชมป์เอเชีย ในเดือน เม.ย.2567 ที่กาตาร์ โดยมีโควตาโอลิมปิก ที่ฝรั่งเศส จำนวน 3 ทีมครึ่งเป็นเดิมพัน
อ่านข่าวอื่นๆ :
เอเอฟซีสั่งแบน 3 แข้ง "บุรีรัมย์" จากเหตุวุ่นวายหลังเกมกับ "เจ้อเจียง"