ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมอุทยาน ขีดเส้น 30 วัน 2 รีสอร์ตรุก "ผาหัวสิงห์" ต้องรื้อถอน

สิ่งแวดล้อม
14 ธ.ค. 66
19:34
4,387
Logo Thai PBS
กรมอุทยาน ขีดเส้น 30 วัน 2 รีสอร์ตรุก "ผาหัวสิงห์" ต้องรื้อถอน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยาน-ฝ่ายปกครอง ติดป้ายรื้อถอนรีสอร์ต 2 แห่งบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาค้อ บริเวณ​ภูทับเบิก-ผาหัวสิงห์ ต้องดำเนินการภายใน 30 วันยันคงสิทธิทำกินตามมติ 18 ม.ค.2509

วันนี้ (14 ธ.ค.2566) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ร่วมกับ ป.ป.ช.จังหวัดเพชรบูรณ์​ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชุมเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

โดยการประชุมครั้งนี้ นายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน พร้อมชาวบ้านดอยน้ำเพียงดิน 8 คน เข้าร่วมประชุม โดยมีการชูป้ายข้อความว่า "ชาวบ้านขอคัดค้าน! แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ที่ประกาศทับที่ทำกินชาวบ้าน ต้องถอนออกไปจากที่ทำกินชาวบ้าน เพราะชาวบ้านทำกินก่อนอุทยาน"

โดยไม่ยอมรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เนื่องจากเข้าใจว่าทำกินอยู่ในเขตกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จัดสรรให้เพราะได้มีการสำรวจร่วมกับในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่ารับสิทธิในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

กรมอุทยานฯ ยันสิทธิตามมติครม.ยังมีอยู่ 

ทำให้ผู้แทนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ชี้แจงว่า เดิมกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เคยขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ตามมติครม.เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2509 ครอบคลุมพื้นที่เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย เนื้อที่รวม 175,000 ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา แต่ยังไม่มีการตราพระราชกฤษฎีกาตามกฎหมาย

ต่อมาพบว่าในพื้นที่แปลงดังกล่าว ยังมีสภาพป่าที่สมบูรณ์ ในปี 2545 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงสำรวจพื้นที่ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์จริง ทำให้เหลือพื้นที่ขอใช้ใช้ประโยชน์ ในอ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ 13,447 ไร่

ส่วนพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นป่า เป็นหน้าผาที่มีความลาดชัน ไม่ได้ใช้ประโยชน์​พื้นที่ จึงได้คืนให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ เพื่อให้คงเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์

นาย​ชัยวัฒน์​ ระบุว่า จากข้อโต้แย้งของชุมชนที่อ้างว่าการตรวจยึดพื้นที่จะทำให้ชาวบ้านไม่มีพื้นที่ทำกิน แต่ความจริงการตรวจยึดพื้นที่เป็นเพียง 1 ใน 4 ของพื้นที่ทำกินที่บุกรุกพื้นที่อุทยาน ส่วนชาวบ้านที่ได้รับสิทธิการทำกินในพื้นที่ยังคงสิทธิ​ไว้ 

อย่างไรก็ตาม จากนั้นกรมอุทยาน ลงพื้นที่ร่วมกันบริเวณพื้นที่แปลงคดี เพื่อติดประกาศหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณแปลงคดีรายสวนสวรรค์ภูทับเบิก และกู๊ดวิว-ฮอตวิว เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้กระทำความผิดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ภายใน 30 วัน พร้อมกับปักหลักแนวเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้ชาวบ้านทราบแนวเขตที่ชัดเจน

กรมอุทยานฯ ปักแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ

กรมอุทยานฯ ปักแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ

กรมอุทยานฯ ปักแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ

ไทม์ไลน์ 2 รีสอร์ตรุกผาหัวสิงห์-ภูทับเบิก 

กรณีดังกล่าวเนื่องจากพบว่าทั้ง 2 คดี คือบริเวณสวนสวรรค์ภูทับเบิก และกู๊ดวิว-ฮอตวิว ซึ่งมีการตรวจยึดพื้นที่ และลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.หล่มเก่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 พร้อมทั้งติดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนตามม.35 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนิการตามกฎหมาย

ปักป้ายให้รีสอร์ต 2 แห่งรุกผาหัวสิงห์-ภูทับเบิก

ปักป้ายให้รีสอร์ต 2 แห่งรุกผาหัวสิงห์-ภูทับเบิก

ปักป้ายให้รีสอร์ต 2 แห่งรุกผาหัวสิงห์-ภูทับเบิก

ส่วนบริเวณกู๊ดวิว-ฮอตวิว พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกดำเนินคดีกรณีการบุกรุกพื้นที่ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2559 และศาลได้พิพากษาตัดสินให้นายบุญพันธ์ สิ่งทอ รับโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกรอลงโทษไว้ 1 ปี) และให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยออกจากเขตป่าอุทยานแห่งชาติที่เกิดเหตุไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2560

การปิดประกาศดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย โดยให้ดำเนินการรื้อถอนภาย ภายใน 30 วัน พร้อมกับร่วมกันปักหลักแนวเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้ชาวบ้านทราบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อที่ชัดเจน

 อ่านข่าว

สั่งย้าย-สอบ หน.อช.เขาค้อ ปล่อยรีสอร์ตบุกรุก ใกล้ผาหัวสิงห์ภูทับเบิก

ปิด "ผาหัวสิงห์" เขาค้อ หลังนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นจุดชมวิวบนหน้าผา

รื้อเต็นท์-รีสอร์ต บนผาหัวสิงห์รุกป่าภูทับเบิก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง