ดอกไม้และข้อความให้กำลังใจ ถูกส่งตรงทั้งจากหน้าเวที และผ่านไลฟ์สด ของ "นายไชย์พล วิภา" หรือ ลุงพล หลังศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาให้จำคุก นายไชย์พล 20 ปี คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ แม้จะใช้เวลานานกว่า 3 ปี ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา แต่ปรากฏการณ์นี้ สะท้อนว่ากระแสของผู้ติดตาม ... ยังคงมีอยู่
ย้อนกลับไปปี 2563 สปอตไลท์จากสื่อกระแสหลักและยูทูบเบอร์ ส่องไปที่ "บ้านกกกอก" บุคคลแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชมพู่ ถูกจับจ้อง ลุงพลและป้าแต๋น หรือ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ กลายเป็นบุคคลที่อยู่ในความสนใจ เพียงชั่วข้ามคืน
การเป็นคนในกระแส มีผู้ติดตาม นำมาสู่ผลงานสร้างรายได้ ทั้งการร้องเพลงร่วมกับศิลปิน งานเดินแบบ และรีวิวสินค้า รวมถึงมีช่องออนไลน์เป็นของตัวเอง จากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นผู้ต้องหา และกลายเป็น "ผู้สร้างรายได้" จากกระแสคดีอาชญากรรม ทำให้ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.หอการค้าไทย "นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน" ต้องออกมาถอดบทเรียน เรียกร้องสื่อให้ทบทวนบทบาท
ส่วนหนึ่งก็สะท้อนปรากฏการณ์ของสังคม และต้องอธิบายด้วยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น และจะมีทางออกไหม ถึงแม้ว่า สื่อ จะเป็นตะเกียงของสังคมก็ตาม แต่มันไม่ใช่ทำให้คุณต้องไปลดทอน หรือบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง
ไม่เพียงแค่กระแสติดตาม อีกด้านหนึ่ง มี #แบนลุงพล เกิดขึ้น พร้อมกับการตั้งคำถามกดดันการทำหน้าที่สื่อ กระทั่งมี "สื่อมวลชน" คนหนึ่ง ออกมายอมรับว่ามีส่วนทำให้ คดีนี้ กลายเป็นเรียลลิตี "ชีวิตของลุงพล-ป๋าแต๋น"
อ่าน : นักข่าวลาออก - นักวิชาการห่วงสื่อประกอบสร้าง "ลุงพล" คนต่อไป
เปลี่ยนทิศทางข่าวจากคดีอาชญากรรม กลายเป็น เรื่องไสยศาสตร์ ความงมงาย และการมอมเมา ขายข่าวรายวัน และ "เขา" แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ปรากฏการณ์ที่ดำเนินต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี ถูกสะท้อนผ่านนักวิชาการว่า การประกอบสร้างของสื่อ ผ่านการผูกปมเรื่องราว เหตุการณ์ และบุคคล มีผลต่อความคิด และความเชื่อของคนบางกลุ่ม
เรื่องนี้ รศ.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม อาจารย์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า ในประวัติศาสตร์วงการนักข่าวไทย ไม่เคยเกิดกรณีแบบลุงพล ที่ชัดเจนมาว่า มีการเล่นข่าวเรื่องๆ หนึ่งเป็นเวลา 1-2 ปี และนำเสนอแบบมีดรามาเกิดขึ้น มีการเซ็ตฉาก จนกระทั่งประกอบสร้างทำให้ คนๆ หนึ่งกลายเป็นเซเลบ กลายเป็นคนมีชื่อเสียง แล้วการเป็นคนมีชื่อเสียงของเขาคนนั้น ก็มีกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตัวบุคคลและต่อสังคมเยอะแยะมากมาย
ดังนั้นองค์กรวิชาชีพสื่อ ที่บอกว่าจะกำกับดูแลกันเอง จะกำกับกันเองกับเคสกรณีแบบนี้อย่างไร
คำพิพากษาวันนี้ ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรม "นายไชย์พล" ได้ยื่นต่อสู้คดีในศาลอุทธรณ์เป็นที่เรียบร้อย
อ่าน :
"ผู้การแต้ม" ฟันธง "ลุงพล" ถูกมัดด้วยเส้นผม "น้องชมพู่"
หน้าตัดเส้นผม "น้องชมพู่" กุญแจไขคดีฆาตกรรม มัด "ลุงพล"