วันนี้ (22 ธ.ค.66) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเรื่องผู้กำกับใหม่ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องตั๋วตำรวจ ว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล ยอมรับว่า รอบนี้ทำงานยากขึ้น เพราะอภิปรายเรื่องตั๋วมาหลายครั้ง บางครั้งผู้ที่กระทำความผิดก็มีการปรับตัวจนทำให้การตรวจสอบยากขึ้น แต่จากหลักฐานที่นายกฯพูด มั่นใจว่า ดิ้นไม่หลุดเรื่องนี้ผิดกฎหมายแน่นอน และต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณา คำพูดดังกล่าวมัดตัวนายกฯไปแล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการของพรรคก้าวไกลที่ต้องคุยกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร เมื่อใดซึ่งยังไม่สรุป แต่ไม่ช้าแน่นอน เพราะเราให้เวลากับนายกฯ ด้วยการตั้งกระทู้ถามในสภาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อนายกฯ ไม่มาชี้แจงหรือให้เหตุผลอะไร ก็ต้องพิจารณาในส่วนของกฎหมาย
ทั้งนี้ จะนําประเด็นดังกล่าวไปใช้ในการอภิปรายไม่ใว้วางใจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้รอดู เพราะฝ่ายที่ต้องอภิปรายต้องเตรียมข้อมูลไว้ก่อน คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ทั้งนี้การอภิปรายไม่ใช่หยิบเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมองภาพรวม และดูว่ามีพยานหลักฐานในเรื่องอื่นมาก-น้อย แค่ไหน
ส่วนเรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้นายเศรษฐา หลุดจากตําแหน่งนายกฯ หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ที่การโหวตในสภาฯ แต่ยอมรับว่า การใช้เรื่องนี้เพื่อให้สภาลงมติถอดถอนนายเศรษฐา ออกจากตําแหน่งนายกฯ เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะไม่แน่ใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนําไปสู่จุดนั้นได้มากน้อยแค่ไหน
ใครที่รู้ตัวก็อาจจะชิงลาออกหรือทําให้ตัวเองพ้นจากตําแหน่งไปก่อน ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างน้อยมันคือการฟ้องประชาชนให้เห็นว่าประเทศนี้เกิดอะไรขึ้น ทําให้ประชาชนได้รู้ว่าผู้ที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลเป็นอย่างไร
สุดท้ายแล้ว ถ้านายกฯ ไม่สามารถตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านหรือชี้แจงต่อประชาชนได้ ก็ไม่ใช่แค่การพ้นจากตำแหน่ง แต่คือการประหารชีวิตทางการเมือง