"อนุทิน" ยกย่อง "อส.งาว" ถูกแทงเสียชีวิตหลังเข้าคุมชายคลั่งยา

วันนี้ (27 ธ.ค.2566) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชายวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้รับรายงานของนายสมจิตร จุลเจริญ นายอำเภองาว จ.ลำปางว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (26 ธ.ค.) เกิดเหตุนายหมู่ใหญ่ พิสิทธิ์ สิทธิชุม สมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภองาวที่ 2 จ.ลำปาง ถูกแทงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่

เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชื่นชมในความกล้าหาญของนายหมู่ใหญ่พิสิทธิ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน กระทั่งตัวเองประสบเหตุจนเสียชีวิต

ทั้งนี้มีความห่วงใยสมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนทุกคนในทุกพื้นที่ที่ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงอันตราย โดยขอให้เพิ่มความระมัดระวัง มีมาตรการป้องกันในการเข้าระงับเหตุต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดกับเจ้าหน้าที่ 

โดยช่วงเย็นวันนี้ (27 ธ.ค.) นายอนุทิน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยจะเดินทางไปร่วมพิธีศพ เพื่อเป็นเกียรติในการปฏิบัติหน้าที่จนวาระสุดท้ายที่บ้านของนายหมู่ใหญ่ พิสิทธิ์ บ้านเลขที่ 136 หมู่ 2 บ้านศรีป้าน ต.หลวงเหนือ อ.งาว จ.ลำปาง และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงสมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภองาวที่ 2 จ.ลำปางด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายอำเภองาวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 เวลา 20.00 น. สมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภองาวที่ 2 ได้รับแจ้งขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบ้านพักนายอำเภองาวว่า ได้พบมีบุคคลมีพิรุธมีลักษณะผิดปกติพูดคุยคนเดียวอยู่บริเวณศาลาประชาคมหลังเก่า ที่ว่าการอำเภองาว

จากนั้นสมาชิก อส.ได้เข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง และเข้าไปสอบถามบุคคลต้องสงสัย ปรากฎว่านายนนท์ปวิธ แช่จัง อายุ 39 ปีได้ชักมีดวิ่งเข้าหาและแทง นายหมู่ใหญ่ พิสิทธิ์ จนล้มได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทำร้ายนายหมู่ใหญ่ พิสิทธิ์แล้ว ผู้ก่อเหตุยังได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และได้ชิงทรัพย์รถกระบะบนถนนในพื้นที่ และทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ได้ติดตามจนสามารถจับตัวได้ ที่ อ.แม่ใจ จ.พะเยา และเบื้องต้นได้ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย(เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

"เศรษฐา" ปลุกชุมชนเข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานเปิดปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ระยะ 1 ปี รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญ หายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด และได้เริ่มปฏิบัติการ Quick Win ในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การจับ กุมและยึดทรัพย์ผู้ค้า จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย เข้ารับการบำบัด ลดความรุนแรงจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง

ตั้งเป้า 1 ปีลดปัญหายาเสพติด

นายเศรษฐา ยอมรับว่า ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันยังมีความรุนแรง ประชาชนมีข้อกังวลจำนวนมาก จากความห่วงในใยลูกหลาน ได้รับข้อร้องเรียนมาโดยตลอด ในระหว่างการลงพื้นที่หลายจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ได้เห็นแววตาของพ่อแม่ที่มีลูกหลานติดยาเสพติดได้ฟังเรื่องร้อนใจ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าเศร้าใจ ขอให้เอาจริง เอาจัง ช่วยเหลือลูกหลานให้พ้นจากยาเสพติดให้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดการยาเสพติด ต้องเริ่มที่แหล่งต้นตอ ซึ่งมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดใน หลายจังหวัดชายแดนทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และเริ่มเคลื่อนย้ายมาทางตะวันตกด้านแถว ตาก กาญจนบุรี ระนอง รวมทั้งต้องมีการจัดการที่จุดระบาด มีหลายจังหวัดที่น่าเป็นห่วง ทั้งใน กทม.-ปริมณฑล จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

นายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย 10 ข้อ ในการลดปัญหายาเสพติด คือ ลดความรุนแรงจากปัญหาผู้ที่มีอาการจิตเวชจากยาเสพติด ลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดด้วยการบำบัดรักษา และต่อยอดการแก้ไขปัญหาผู้ผ่านการบำบัดอย่างครบวงจร

ดำเนินนโยบายร่วมมือกับต่างประเทศเชิงรุก และเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ยกระดับการปราบปรามทำลายโครงสร้างเครือข่ายกลุ่มการค้ายาเสพติด ด้วยการตัดวงจรทางการเงินและการริบทรัพย์สิน

รวมทั้งป้องกันยาเสพติดไม่ให้เกิดผู้เสพยาเสพติดรายใหม่ ปลุกประชาชนให้ตื่นตัวและเข้าร่วมการแก้ไขปัญหายาเสพติด สร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดใหม่ ๆ กำหนดเป้าหมาย และ KPI ลดปัญหายาเสพติดภายใน 4 ปี โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นกำลังสำคัญยิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในครั้งนี้ และการบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ ผนึกกำลังร่วมกันประสานงาน