วันนี้ (5 ม.ค.2567) บรรยากาศในเมืองเคอร์มาน ทางตอนใต้ของอิหร่านเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ล่าสุดกลุ่มรัฐอิสลามออกแถลงการณ์ผ่านเทเลแกรม อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการระเบิดสองครั้งซ้อน โดยระบุว่าสมาชิก 2 คนของกลุ่มได้สวมเสื้อกั๊กติดระเบิดแฝงตัวปะปนไปกับฝูงชน และก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในงานไว้อาลัยนายพลคาเซม โซเลมานี อดีตผู้นำกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ที่ถูกสหรัฐฯ ลอบสังหารของในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2020 โดยพิธีไว้อาลัยจัดขึ้นในเมืองเคอร์มาน ทางตอนใต้ของอิหร่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโซเลมานี
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับทางการอิหร่านที่ยืนยันแล้วว่า เหตุระเบิดทั้งสองครั้งซ้อนเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย
ด้านจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ ไม่มีข้อสงสัย โดยเชื่อว่ากลุ่มรัฐอิสลามอยู่เบื้องหลังจริง แม้ว่าการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำได้ยากทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ แต่กลุ่มรัฐอิสลามยังเป็นภัยคุกคามการก่อการร้าย ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่ออัฟกานิสถานและภูมิภาคดังกล่าวด้วย
ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ว่า เป็นการก่อการร้ายที่ขี้ขลาด และขอให้สมาชิกขององค์การสหประชาชาติทุกประเทศ ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับอิหร่านเพื่อจัดการกับผู้ก่อเหตุ องค์กร และผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินในการก่อเหตุ
ล่าสุดทางการอิหร่าน ได้ปรับลดตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก 95 คน ลดลงมาเหลือ 84 คน ฃขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิหร่าน ประกาศยกระดับความมั่นคงบริเวณชายแดนด้านที่ติดกับอัฟกานิสถานและปากีสถาน ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มติดอาวุธ ผู้ลักลอบค้ายาเสพติด รวมถึงกลุ่มอื่น ๆ ใช้ลักลอบเข้าอิหร่านโดยผิดกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ระทึกงานไว้อาลัย ระเบิดสองครั้งซ้อนในอิหร่าน เสียชีวิต 103 คน