วันนี้ (10 ม.ค.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ให้การต้อนรับ พล.อ.ตันศรี ดาโต๊ะ สรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบิดิน อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้น 12.20 น.นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า จะมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ส่วนหาหารือกับ พล.อ.ตันศรี ในวันนี้เป็นการสร้างความเข้าใจระหว่างภาคส่วนราชการของไทยและมาเลเซียเพื่อให้ทำงานให้ลงตัว เหมือนการสร้างระเบียบเพื่อให้การทำงานใช้เวลาไม่นาน
อ่านข่าว : นายกฯ ตั้ง "ฉัตรชัย บางชวด" นั่งหัวหน้าทีมคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้
รวมถึงกำหนดกฎเกณฑ์ในการพูดคุยว่า จะพูดคุยได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ส่วนจะมีการพูดคุยสันติสุขครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นยังไม่ทราบ เพราะวันนี้เป็นการพูดคุยเพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานให้เกิดความรวดเร็ว เพื่อให้ไทยกับมาเลเซีย จับมือกันพัฒนาเศรษฐกิจแข่งกับประเทศอื่น ๆ ได้
เมื่อถามถึงกรณีภาคประชาสังคมยื่นหนังสือถึงเวลาธิการสหประชาชาติว่า ถูกภาครัฐใช้การดำเนินคดีเป็นการปิดปากกว่า 40 คดี จะสวนทางการพูดคุยสันติภาพหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเรายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางอำเภอ แล้วใช้กฎหมายความมั่นคงแทนก็จะทำให้แก้แก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ง่ายขึ้น เราพยายามยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในบางอำเภอออกไป ขอยืนยันว่าทั้ง 2 ประเทศ ต้องทำหลักการณ์ให้ชัดเจนและดำเนินไปตามแนวทางที่วางร่วมกันเพื่อไปสู่เป้าหมาย
อ่านข่าว : เริ่มแล้ว! เวทีพูดคุยสันติสุขแบบเต็มคณะ
ขณะที่นายฉัตรชัย บางชวด รักษาการเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า การหารือกันในวันนี้เพื่อนำคณะพูดคุยของฝ่ายรัฐทั้ง 2 ประเทศมาพูดคุยกันกำหนดแนวทางการทำงาน และขั้นตอนที่จะไปพูดคุยที่มาเลเซีย โดยยืนยันว่า จะมีการสานต่อการพูดคุยสันติสุขในแนวทางเดิม โดยตัวแทนผู้อำนวยความสะดวกของไทย จะไปพูดคุยกับฝั่งมาเลเซีย อาจจะมีความเป็นไปได่ว่าจะมีการพูดคุยเจรจากันภายในเดือน ก.พ.67
ทั้งนี้ไทยมีเป้าหมายรับรองแผนฉบับดังกล่าวในเดือน เม.ย.67 จะทำให้การขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้มากขึ้น โดยมีเรื่องการลดความรุนแรง การเผชิญหน้า การเปิดเวทีสาธารณะ รวมไปถึงการแสวงหาทางออกทางการเมือง หวังว่าร่างฉบับนี้จะนำไปสู่ความสงบสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ในขั้นต้นคาดหวังว่าจะมีข้อตกลงสันติสุขภายในเดือน ธ.ค.67 หรือช่วงต้นปีหน้าแต่ปัจจุบันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม
อ่านข่าว : ความหวัง "อันวาร์" เยือนไทย ส่งผลดีพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้
ยืนยันว่า จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม (JCPP) ที่ทำกับ BRN เดิม ซึ่ง BRN เป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และคนในพื้นที่ก็มีส่วนสำคัญ จึงจำเป็นต้องเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งสุดท้ายต้องเป็นเรื่องของคนไทยด้วยกันเองที่ต้องหาข้อสรุปร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว
แต่เรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจก็เป็นส่วนสำคัญ จึงจำเป็นต้องให้ทางการมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาใช้ระยะเวลาหลายปีในการสร้างความไว้วางใจ เพื่อให้ผู้เห็นต่างเชื่อมั่นว่ารัฐมีความจริงจังที่จะแก้ไขปัญหา
อ่านข่าว : "เศรษฐา" หารือ "นายกฯ มาเลเซีย" ผลักดันความร่วมมือพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย วันนี้
ส่วนการกระทำความผิดบางส่วนก็เป็นเรื่องของกองทัพภาค 4 ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ แต่ทั้งหมดต้องมีการพูดคุยกันภายในหาจุดลงตัวเหมาะสม ซึ่งตนมองว่าอาจมีบางส่วนเห็นต่างและสุ่มเสี่ยง ตนมองว่า ปล่อยให้กระบวนการดำเนินการไป ส่วนเรื่องการพูดคุยกันภาพใหญ่ก็จะดำเนินการต่อไป เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ดำเนินการต่อ ซึ่งต้องดำเนินการคู่ขนานกันต่อไป
อ่านข่าว อื่น ๆ
นายกฯ ตั้ง "ฉัตรชัย บางชวด" นั่งหัวหน้าทีมคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้