กรณีเพจเฟซบุ๊กขยะมระสุม ได้มีการโพสต์ “วอนนายกเศรษฐา ” สร้างสะพานข้ามคลองที่เกาะพยาม ต.กาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง กรณีที่นักเรียนต้องเดินลุยน้ำไปเรียน สาเหตุเนื่องจากเจ้าของโครงการไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว คือพื้นที่นี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพยาม อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2543 และวันที่ 17 ต.ค.2543 เนื้อที่ประมาณ 3-0-90.70 ไร่ ซึ่งการเข้าใช้ประโยชน์ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงจะสามารถอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ได้
นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีหนังสือแจ้งตอบไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) ตามหนังสือ ที่ ทส 0406/2168 ลว. 22 ก.ย.2563 ว่าไม่ขัดข้องในการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณดังกล่าว
มท.จะต้องนำความเห็นของทส. เสนอเข้าครม.เพื่อให้มีมติเห็นชอบการเข้าใช้ประโยชน์ตามโครงการก่อสร้างสะพาน แล้วจึงยื่นขออนุญาตต่อทช. ตามขั้นตอน
กางไทม์ไลน์ สะพานข้ามเกาะพยาม
สำหรับกรณีดังกล่าว ทช.อ้างอิงหนังสือเมื่อ 22 ก.ย.2563 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส.ขอยกเว้นมติครม. เพื่อการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนท้องที่ จ.ระนอง อ้างถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อ 8 พ.ย.2562
เนื้อหาระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงกระทรวงมหาดไทยขอให้ทส.พิจารณาให้ความเห็น กรณี จ.ระนองดำเนินโครงการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมก่อสร้างถนน และสะพานแขวนเชื่อมโยงเส้นทางบริเวณอ่าวเขาควาย ท้องที่หมู่บ้านอ่าวเขาควาย ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เพื่อประกอบการขอยกเว้นมติ ครม.เพื่อการอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าขายเลนท้องที่ จ.ระนอง
โดยระบุดังนี้ 1.การขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ป่ชายเลนของจ.ระนอง อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติครม.เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2543 และวันที่ 17 ต.ค.2543 และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเกาะพะยามตามกฎกระทรวงฉบับที่ 625 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันที่ 26 พ.ย.2516 เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ โดยพื้นที่ที่ขอยกเว้นมติ ครม.ดังกล่าว มีวัตถุ ประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรชาวไทย และชาวมอแกน ที่อาศัยมาแต่เดิม
โดยการดำเนินโครงการพัฒนาปัจจัยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรมก่สร้างถนนและสะพานแขวนเชื่อมโยงเส้นทางบริเวณอ่าวเขาควาย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่น้ำทะเลท่วมไม่ถึง และไม่มีพันธุ์ไม้ป่าขายเลน
ดังนั้นการดำเนินโครงการของจ.ระนองน่าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนบริเวณพื้นที่ข้างเคียง จึงเห็นควรสนับสนุนและอนุญาตให้จ.ระนองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน
ยันส่งหนังสือมท.ปี 2563-รอขั้นตอนอนุมัติ
2.การดำเนินโครงการในพื้นที่ป่าชายเลน หน่วยงานเจ้าของเรื่องจะต้องดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ เสนอเรื่องขอยกเว้นมติครม.ที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลนได้แก่
มติครม.เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2543 วันที่ 26 ส.ค.2543 และวันที่ 17 ต.ค. 2543 โดยหน่วยงานเจ้าของโครงการต้องดำเนินการตามมติครม.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2559 ให้จัดสรรงบประมาณให้กับทช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทน เพื่อการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ไม่น้อยกว่า 2 เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์
ตามระเบียบ ทช.ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมกรณีการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานช่องรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนพ.ศ.2556 อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้เมื่อ ครม.มีมติให้ยกเว้นแล้ว จึงเสนอเรื่องต่อ ทช.เพื่อขออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าชายเลน หากเป็นโครงการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ให้แนบรายงานอีไอเอที่ได้รับความเห็นชอบแล้วเสนอ ทช.ตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้อง