ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ธปท.แจงเหตุดอกเบี้ยแพง-ยันนโยบายการเงินไม่มาผิดทาง

เศรษฐกิจ
16 ม.ค. 67
08:07
1,248
Logo Thai PBS
ธปท.แจงเหตุดอกเบี้ยแพง-ยันนโยบายการเงินไม่มาผิดทาง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ธปท.ยืนยันดำเนินนโยบายการเงินไม่ผิดทางและพร้อมปรับจุดยืนหากแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนไป หลังถูกตั้งคำถาม โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่กำลังอยู่ในขาขึ้น

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2567 นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน แถลงถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่านมา โดยพิจารณาบนหลักการที่ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายต้องไม่เป็นอุปสรรคการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่กระทบเสถียรภาพทางการเงิน และกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ภายใต้บริบทเฉพาะของเศรษฐกิจไทย

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จึงทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ปรับขึ้นตามทิศทางของธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลักทันที แต่ไทยจะฝืนกระแสเงินโลกไม่ได้นาน จึงต้องเริ่มขึ้นดอกเบี้ย ในช่วงที่จีนประกาศเปิดประเทศ ซึ่งแบงก์ชาติคาดหวังไม่ต่างจากรัฐบาลว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้น การทำนโยบายการเงินก็เช่นกันที่ต้องมองผลระยะข้างหน้า ไม่ใช่ขณะนี้

แบงก์ชาติจึงเปรียบเปรยการทำนโยบายว่า เหมือนนักฟุตบอลที่กำลังจะส่งบอล จะตัดสินใจส่งบอลให้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งที่กำลังจะวิ่ง ไม่ใช่ผู้เล่นที่กำลังยืนอยู่ นอกจากนี้ยังเปรียบเปรยว่า กนง.เป็นเหมือนผู้รักษาประตู ขณะที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลมีเครื่องมือพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งไม่ต่างกับกองกลางที่ทำหน้าที่เสริมกองหน้าได้ดีกว่า หากให้ผู้รักษาประตูไปวิ่งทำประตูด้วย ก็เท่ากับเปิดช่องว่างความเสี่ยง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ธปท.เปิดรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาลและกระทรวงการคลังได้หารือกันตลอด และนำมาทบทวนเสมอว่าได้ดำเนินนโยบายถูกต้องแล้วหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้ ธปท.ดำเนินนโยบายไม่ผิดทางแน่นอน และพร้อมปรับจุดยืนนโยบายให้เหมาะสม หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน กล่าวว่า ธปท.ห่วงกลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย โดยขอให้ขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ซึ่งการส่งผ่านดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 49% ลดลงจากในอดีตที่ 58% ถือว่าน้อยกว่าหลาย ๆ ประเท ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 79-100%

สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารย์จากประชาชนส่วนหนึ่งว่า ธนาคารให้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย แต่เก็บดอกเบี้ยเงินกู้สูง หลายคนผ่อนไม่ไหวนั้น เรื่องนี้ต้องพูดคุยหารือกับธนาคารพาณิชย์

อ่านข่าวอื่นๆ

กสทช.ประกาศคนมีเบอร์เกิน 6 ซิม ต้องยืนยันตัวตน เริ่ม 16 ม.ค.นี้

4 เครือข่ายสหกรณ์ ยอมถอยปรับราคา “ไข่ไก่” ลงแผงละ 6 บาท

คิกออฟ "ตลาดนัดแก้หนี้" ทั่วประเทศ ลูกหนี้-เจ้าหนี้ ร่วมไกล่เกลี่ย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง