วันที่ 21 ม.ค.2567 เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. ติดตามจับกุมตัวนายเอกพล หรืออั้มสนามม้า อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.4828/2566 ลงวันที่ 27 ธ.ค.2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ได้ที่การเคหะชุมชนพรพระร่วงประสิทธิ์ เขตสายไหม กรุงเทพฯ
พบประวัติเคยก่อคดีมาแล้วกว่า 2 คดี เหตุวิ่งราวทรัพย์เมื่อปี 2556 พื้นที่ สน.นางเลิ้ง, และเมื่อปี 2562 คดีครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) พื้นที่ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พฤติการณ์ของนายเอกพล คือเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2566 เวลา 18.30 น. ก่อเหตุฉกโทรศัพท์มือถือจากมือหญิงผู้เสียหาย ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อนบนถนนพหลโยธิน ต่อมาผู้เสียหายได้แจ้งความกับตำรวจ โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และสืบสวนสืบทราบว่านายเอกพล หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่เคหะดังกล่าว จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัว
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเดินทางมาถึงห้องพัก ปรากฏว่าไม่พบนายเอกพล โดยแฟนสาวบอกเจ้าหน้าที่ว่า นายเอกพลปีนระเบียงหลังห้องลงไปด้านล่างแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณระเบียงหลังห้องก็พบเชือกนำมาผูกไว้ริมระเบียงและห้อยลงไปด้านล่าง หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจเอะใจว่าห้องที่ติดกันนั้นเป็นห้องว่าง ชุดสืบสวนจึงปีนระเบียงไปยังห้องข้าง ๆ ก่อนพังประตูห้องน้ำเข้าไป และพบว่านายเอกพล แอบคุดคู้อยู่ด้านหลังประตู จึงจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุม นายเอกพลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การยอมรับว่าตนเองติดยาเสพติด และมีลูกเล็ก 2 คน อ้างว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะตกงาน ต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก โดยวันเกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์ของหญิงผู้เสียหายจอดติดไฟแดง และถือโทรศัพท์ยี่ห้อดัง จึงขับตามประมาณ 1 กิโลเมตร ในจังหวะผู้เสียหายหยิบโทรศัพท์ออกมา จึงขับประกอบแล้วฉกจากมือก่อนหลบหนี ส่วนเชือกที่ผูกไว้บริเวณระเบียงดังกล่าวได้เตรียมผูกไว้ แต่เกิดความตกใจกลัวถูกจับกุม จึงปีนระเบียงหนีตำรวจ