วันนี้ (25 ม.ค.2567) นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบ อคส. กว่า 3 ปีที่ผ่านมา ได้รวบรวมข้าวคงเหลือในสต็อก ทั้งในและนอกบัญชีคลังกลาง รวมถึงข้าวนอกคลังปี 48/49 แล้วกว่า 240,000 ตัน เสนอขออนุมัติจาก นบข.
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.)
โดยอคส.เร่งประกาศระบายตั้งแต่ปี 2565 และส่งมอบเสร็จสิ้นแล้ว ยกเว้นข้าวตกค้างที่ส่งมอบไม่เรียบร้อยโดยเฉพาะจากการยึดหน่วง ซึ่งคงเหลือข้าวหอมมะลิจำนวน 2 คลังในจ. สุรินทร์ ปริมาณรวม 15,013 ตันข้าวสาร มูลค่า 300 ล้านบาท ที่ผู้ชนะประมูลได้เมื่อปี 2563 ไม่มาชำระเงินก่อนรับมอบข้าว
ดังนั้นอคส.จึงบอกเลิกสัญญาพร้อมดำเนินคดีต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจากเป็นความผิดของผู้ซื้อเองและระบายไม่ทันสิ้นเดือนก.ย. 2566 ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ นบข. อนุมัติ อคส.จึงรวบรวมเรื่องเพื่อขออนุมัติใหม่จาก นบข. เมื่อต้นเดือนพ.ย.2566 ซึ่งได้รับอนุมัติให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย.2567
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ไตรมาส 4 ของปี 2566 เป็นช่วงที่ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิต หากระบายช่วงดังกล่าวจะมีผลต่อราคาข้าวเปลือก อคส.จึงเลื่อนการประมูล และมาเปิดประมูลข้าวเป็นการทั่วไปในเดือนม.ค.2567 ซึ่งได้ประกาศ TOR แล้วเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2567 และจะเปิดคลังสินค้าให้ผู้สนใจประมูลเข้าดูสภาพข้าวระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค. 2567 โดยให้ยื่นซองคุณสมบัติในวันที่ 31 ม.ค. 2567 และจะเปิดซองในวันที่ 8 ก.พ.2567 มั่นใจการส่งมอบข้าวจะเสร็จเรียบร้อยภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567
“เหตุที่ระบายไม่ทันเดือนก.ย2566 เพราะมีการทักท้วง TOR ที่กำหนดไว้ว่าต้องแสดงหลักฐานการเงินต่อการซื้อ จึงให้คณะกรรมการ TOR ทบทวนพิจารณาข้อทักท้วงอย่างรอบคอบก่อนจะยืนยันกรอบ TOR เดิมเพื่อดำเนินการระบายข้าว”
ผอ.อคส.กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาการชำระเงินมีมาอย่างต่อเนื่อง การระบายข้าวของคลังที่จะประมูลที่ผ่านการประมูล 3 ครั้งด้วยกัน ในปี 2557, 2558 และ 2563 ทุกครั้งมีปัญหาการชำระเงินก่อนรับมอบสินค้า จนต้องบอกเลิกสัญญาพร้อมดำเนินคดีและประมูลใหม่
นอกจากนี้ การประมูลข้าวในปี 2565 ได้กำหนด คือ ต้องแสดงหลักฐานการเงิน ส่งผลให้ไม่มีปัญหาเรื่องการส่งมอบและเสร็จสิ้นทุกคลัง ยกเว้นมีผู้ประกอบการบางรายที่ยื่นราคาน้อยกว่าผู้ชนะการประมูล ร่วม 85 ล้านบาท ได้ยื่นเรื่องกล่าวหาว่ามีการทุจริตต่อ ป.ป.ช. และขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน
ทั้งนี้โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการช่วยเหลือเกษตรกรในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นโยบายประชานิยมสุดโต่งที่ต้องการให้ชาวนาลืมตาอ้าปากมีรายได้โดยให้ชาวนานำผลผลิตมาแลกเป็นเงิน ความพิเศษ คือ ไม่จำกัดโควตาและกำหนดราคาไว้สูงกว่าราคาตลาด
โดยโครงการรับจำนำปี 2556/2557 ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มี 6 โครงการ ปริมาณข้าวที่รับจำนำ 51,902,401 ตัน มูลค่าความเสียหาย 787,504,258,687 บาท เฉพาะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มี 4 โครงการ ปริมาณข้าว 44,663,247 ตัน มูลค่าความเสียหาย 701,237,831,765 บาท ซึ่งหากอคส.สามารถระบายข้าวหมดสต๊อกถือว่าเป็นการปิดตำนานโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายให้กับวงการข้าวอย่างมหาศาล
อ่านข่าวอื่นๆ :
กองสลากฯ เตรียมออกสลาก 3 ตัว นำร่อง 1 ล้านหมายเลข