วันนี้ (25 ม.ค.2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ตัวแทนเจ้าของที่ดิน เนื้อที่ 16 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เข้าตรวจสอบพื้นที่ลักษณะเป็นโกดังเก็บรถยนต์เก่า จำนวนหลายคัน และชิ้นส่วนรถยนต์อีกจำนวนมาก
- เปิดเครือข่าย “รอง ต.” คนสนิทนักการเมือง บอสใหญ่เครือข่ายขนจีนเทาข้ามแดน
- "วิกฤตทะเลแดง" สมรภูมิรบใหม่ตะวันออกกลาง สะเทือนการค้าไทย
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้มีทั้งหมดกว่า 1,000 คัน อยู่ในสภาพเก่า
เนื่องจากเจ้าของพื้นที่คนเดิม เป็นลูกหนี้ แต่ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จึงได้เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง และศาลสั่งบังคับคดี ทำให้เจ้าของคนใหม่เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ ซึ่งเจา้ของพื้นที่คนใหม่เกรงว่ารถยนต์ และซากรถอาจเป็นรถที่ผิดกฎหมายหรือนำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องจึงประสานให้ดีเอสไอตรวจสอบ
อ่านข่าว : "ดีเอสไอ" บุกโกดังขายสินค้าออนไลน์ พบเครื่องใช้ไฟฟ้า 18 รายการ ไม่มี มอก.
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้มีทั้งหมดกว่า 1,000 คัน อยู่ในสภาพเก่า
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรถยนต์ที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้มีทั้งหมดกว่า 1,000 คัน อยู่ในสภาพเก่า ขณะที่พื้นที่แบ่งเป็นโฉนด 3 แปลง รวม 16 ไร่ ลักษณะอาคาร 2 ชั้น เจ้าของเดิมได้ทำสัญญาขอใบอนุญาตเช่าพื้นที่จากนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ตั้งแต่ปี 2554 แต่ช่วงปี 2563 เจ้าเช่าเดิม ไม่ได้ต่อสัญญาหรือชำระตามเงื่อนไข
อ่านข่าว : จ่อฟ้องดีเอสไอ ปัดเรียกเก็บค่าหัวคิวส่งแรงงานไทยไปฟินแลนด์
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย ตัวแทนเจ้าของที่ดิน เนื้อที่ 16 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เข้าตรวจสอบพื้นที่ลักษณะเป็นโกดังเก็บรถยนต์เก่า จำนวนหลายคัน
หลังจากนี้ ดีเอสไอจะประสานกรมศุลกากร ให้เข้ามาตรวจสอบรถทุกคันว่า นำเข้าถูกต้องหรือไม่ หากพบเข้าข่ายความผิด จนพิสูจน์ว่า มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษีดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษเพราะคาดว่ามูลค่า มากกว่า 30 ล้านบาท
ตัวแทนเจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ประสานให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบเพราะต้องการให้นำรถยนต์ทั้งหมดไปตรวจสอบดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อที่จะนำพื้นที่ที่มีสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมายไปดำเนินการทางธุรกิจ
ด้านตัวแทนเจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า เจ้าของโกดังคนเก่าเป็นลูกหนี้กับเจ้าของคนใหม่ แต่ผิดการชำระหนี้จนนำไปสู่การฟ้องร้องและจดจำนองที่ดิน แต่ไม่ทราบเบื้องหลังของการประกอบกิจการ สาเหตุที่ประสานให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบเพราะต้องการให้นำรถยนต์ทั้งหมดไปตรวจสอบดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อที่จะนำพื้นที่ที่มีสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมายไปดำเนินการทางธุรกิจ
อ่านข่าว : "ดีเอสไอ" ยันทำคดีหมูเถื่อนตามข้อเท็จจริง - ปัดตอบเรียก "เฉลิมชัย" ชี้แจง
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้มีทั้งหมดกว่า 1,000 คัน อยู่ในสภาพเก่า
เบื้องต้น รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอส จะดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมด โดยร่วมมือกับกรมศุลกากร อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี เพราะรถมีจำนวนมาก และจะต้องเรียกเจ้าของเดิมมาให้ข้อมูล เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ข่าวอื่น ๆ
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ปัดรู้จัก "เฮียเก้า" เป็นการส่วนตัว พร้อมให้ข้อมูลดีเอสไอ "คดีหมูเถื่อน"
ดีเอสไอ รอรับ "เฮียเก้า" บินกลับไทยมอบตัวสู้คดีไก่เถื่อน