16 ปี บนเส้นทางนักร้อง (เรียน) “ศรีสุวรรณ จรรยา” ก่อนที่ในวันนี้ (26 ม.ค.2567) จะกลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน 1.5 ล้านบาทจาก "บิ๊กกรมการข้าว" โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำทีม ปปป.-ป.ป.ช.เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านคลอง 4 ปทุมธานี
ตำรวจบุกค้นบ้านศรีสุวรรณ
ตำรวจบุกค้นบ้านศรีสุวรรณ
“ศรีสุวรรณ จรรยา” เจ้าของฉายา "นักร้องเรียน" เบอร์หนึ่งของไทย เคยให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า มือของเขาเคยผ่านการเขียนคำฟ้องมากกว่า 3,000-4,000 เรื่อง โดยภาคภูมิใจที่ได้เคยช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและระบบของผู้ประกอบการเอกชน หรือ CSR ดูแลชุมชน
จุดเริ่มต้นของ “ศรีสุวรรณ จรรยา”
ผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับความทุกข์ร้อนของชาวบ้านและประโยชน์สาธารณะมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาแม่โจ้ ได้เป็นนายกองค์การนักศึกษา ตอนนั้นพบปัญหาในพื้นที่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาและชาวบ้าน ที่ถูกรถบรรทุกชนและเสียชีวิตปีละหลายศพ โดยมีการเจรจากับหน่วยงานท้องถิ่นให้เข้ามาดูแล แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นำไปสู่การประท้วงปิดถนนสายเชียงใหม่-พร้าว เป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งประสบความสำเร็จและหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง หลังเรียนจบระดับปริญญาตรี ได้เลือกทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) จากนั้นเรียนต่อระดับปริญญาตรีอีก 3 สาขาวิชา และระดับปริญญาเอก
นอกจากนี้ ยังเข้าไปทำงานสภาทนายความ เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและรณรงค์เรื่องของสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ผมจึงคิดว่าสายงานนี้ตอบโจทย์ของตัวเองและได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนไร้ที่พึ่ง โดยจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องตรวจสอบภาครัฐและนักการเมือง ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี
"ผมน่าจะเป็นนักกฎหมายคนเดียวของไทย ที่มีคดีฟ้องร้องต่อศาลมากที่สุด" นายศรีสุวรรณ เชื่อว่า สิ่งที่ทำถูกใจคนจำนวนมาก เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่อยากให้มีการตรวจสอบ แต่อาจจะไม่มีช่องทาง ไม่กล้าพอ เกรงกลัวต่ออำนาจรัฐ หรืออิทธิพลอื่น ๆ อีกทั้งหลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำจะเอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม หรือเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา แต่ผมคิดว่าการที่ยื่นเรื่องร้องเรียน หรือตรวจสอบที่ผ่านมา จะช่วยสร้างการรับรู้ในภาคประชาชน และภาครัฐเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด
ทำงานอะไร-เอาเงินจากที่ไหนมาร้องเรียน
ข้อสงสัยของหลายคนว่าตนเองทำงานอะไร จริง ๆ แล้วอาชีพ คือ นักกฎหมาย ที่รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้าน โดยคดีที่ฟ้องร้องไป 3,000-4,000 คดี ทุกคดีจะไม่ขอรับค่าตอบแทน แต่ชาวบ้านกลุ่มใหญ่ก็เข้าใจและช่วยลงขันเป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คดีละ 5,000-10,000 บาท นอกจากนี้ยังรับทำงานวิจัยให้กับสถาบันวิชาการ และมหาวิทยาลัย
ทีมงานเบื้องหลังของตนเอง ส่วนใหญ่จะเป็นทนายความทั้งหมด ซึ่งจะมีสำนักงานทนายความเป็นของตัวเอง และใช้เวลาส่วนหนึ่งมาช่วยด้วยจิตสาธารณะ ไม่ได้คิดค่าวิชาชีพ ส่วนการรวบรวมข้อมูลแต่ละเรื่องร้องเรียนนั้นไม่ยาก เพราะเคยยกร่างคำฟ้องนับพันคดี และติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่ออย่างต่อเนื่อง จึงเขียนคำร้องได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงวันเดียวก็สามารถเขียนคำร้องแล้วเสร็จ
เปิดประวัติ "ศรีสุวรรณ"
สำหรับนายศรีสุวรรณา เป็นชาว อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนวังทองพิทยาคม จบศึกษาระดับ ปวส.ด้านเกษตร ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเกษตรพิษณุโลก และได้เรียนต่อจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ในปี 2550 นายศรีสุวรรณ ได้ร่วมมือกับเพื่อนก่อตั้ง "สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน" โดยมีตำแหน่งเป็น นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เป็นองค์กรเคลื่อนไหวประเด็นสิ่งแวดล้อม ต่อมาในปี 2552 ได้ก่อตั้ง "สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย" ขึ้น เพื่อตั้งคำถามและร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นกระแสสังคม จนในบางประเด็นมีการพูดถึงนายศรีสุวรรณาอยู่ต่อเนื่อง
เมื่อเดือน พ.ค.2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ถูกชายบุกตบขณะให้สัมภาษณ์ ภายหลังเข้าพบ กกต.เพื่อชี้แจงและยื่นเอกสารเพิ่มเกี่ยวกับ "เงินดิจิทัล" พรรคเพื่อไทย กระทั่ง 9 มิ.ย.2566 สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกกรมการปกครอง สั่งยุบสมาคมฯ ที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2552 เนื่องจากตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 81 กล่าวคือ จำนวนสมาชิกไม่ครบ 10 คนโดย 3 ใน 10 คนที่มีรายชื่อระบุว่า ไม่เคยเป็นสมาชิก และอีก 2 คนไม่เข้าร่วมประชุม และหันมาใช้ชื่อผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เพื่อตรวจสอบร้องเรียนในประเด็นทางการเมือง สังคม
ช่วงสิ้นปี 2566 นายศรีสุวรรณ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดป่ามะไฟ จ.ปราจีนบุรี ได้รับฉายา "สิริภทฺโท" แปลว่า “ผู้มีสิริอันเจริญ” โดยมีพระครูภาวนาธรรมธารี (สัมพันธ์ ปญฺญาปทีโป) เจ้าคณะอำเภอเมืองปราจีนบุรีเป็นอุปัชฌาย์ ก่อนจะสึกออกมาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
คดีเด่นบนเส้นทางนักร้อง
คดีที่ทำให้นายศรีสุวรรณ โดดเด่นในฐานะทนายที่ช่วยชาวบ้าน ด้วยการขอให้ศาลปกครองสั่งระงับการขยาย 76 โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หรือการขยายปิโตรเคมีเหส 3 เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 ต่อมายังทำให้ผู้ร้องเรียนปัญหาคอนโดหรู โครงการแอชตันอโศก มูลค่า 6,481 ล้านบาท โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดแอชตัน อโศก ของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566
รวมทั้งคดีประวัติศาสตร์ที่ถือเป็นผลงานเด่น เมื่อ 21 ก.พ.2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ในคดีเงินกู้ 191 ล้านบาทผิดกฎหมายพรรคการเมือง
ทั้งนี้ ภายหลังลาสิกขา นายศรีสุวรรณ ระบุว่า จะกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ฟ้องคดีปกครองให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อน และเสียหายจากหน่วยงานรัฐเหมือนเดิม รวมทั้งยังมีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบข้าราชการและนักการเมืองให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งมีเรื่องที่เข้าคิวตรวจสอบแล้วหลายเรื่อง ทั้งการยื่นตรวจสอบการจัดซื้อจัดหากำไล EM ของกรมราชทัณฑ์ การตรวจสอบนักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ ตรวจสอบการขุดเจาะน้ำบาดาลในอดีตที่อาจมิชอบ ตรวจสอบการขยายถนนเลี่ยงเมืองสระแก้วของกรมทางหลวงชนบท การตรวจสอบการคอร์รัปชันของผู้บริหาร ม.ราชภัฎในภาคอีสานบางแห่งที่ร่ำรวยผิดปกติ การคอร์รัปชันของผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรปราการ
ศรีสุวรรณ เจ๋ง ดอกจิก ร้องกำไล EM ทักษิณ ชั้น 14
ศรีสุวรรณ เจ๋ง ดอกจิก ร้องกำไล EM ทักษิณ ชั้น 14
ตรวจสอบการทิ้งขยะพิษใน จ.ฉะเชิงเทรา จะระยอง การตรวจสอบมาตรฐานรถไฟฟ้าสายมีชมพู-สีเหลือง และสีเขียว การตรวจสอบการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินโดยสารชุดใหม่ของ ทอท. การตรวจสอบระบบ IT อาคารกระทรวงมหาดไทยใหม่ การฟ้องการจัดทำเขื่อนริมแม่น้ำป่าสักของกรมเจ้าท่า การฟ้องปลัด ก.เกษตรฯ เกี่ยวกับปัญหานมโรงเรียน การฟ้องระงับการจัดทำผังเมือง กทม.มิชอบ รวมทั้งการเตรียมร่างฟ้องระงับเงินดิจิทัล 10000 บาทของรัฐบาลเศรษฐา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายศรีสุวรรณ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ หนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 พร้อมด้วย น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา และสามารถใช้สิทธิในการต่อสู้คดีได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนจับ “ศรีสุวรรณ” เรียกรับ 1.5 ล้าน “อธิบดีกรมการข้าว” แลกไม่ยื่นร้องเรียน