วันนี้ (9 ก.พ.2567) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือว่าได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ในเรื่องที่จะใช้พื้นที่ อ.แม่สอด เป็นพื้นที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบความไม่สงบในประเทศเมียนมา ซึ่งจากนี้ไปจะมีพัฒนาการโดยลำดับ เพราะดูแล้วเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม และเชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้
ขณะเดียวกันก็มารับฟังปัญหาของจังหวัด เรื่องการค้าขายและเศรษฐกิจ รับข้อมูลเพิ่มเติมจากประธานสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งให้ข้อมูลครอบคลุม ส่งผลกระทบด้านการค้าขาย จาก 1.3 แสนล้าน เหลือเพียง 1 แสนล้านบาท ซึ่งทำให้เห็นชัดเจน
ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเดินหน้าแก้ไขให้เกิดเสรีภาพในเมียนมาโดยเร็ว พร้อมกับระบุว่า หากประเทศเมียนมา เกิดความสงบก็จะทำให้การค้าขายบริเวณชายแดนดีขึ้น
ปานปรีย์ มหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ตรวจเยี่ย อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมรับฟังปัญหาชายแดนต่างๆ
ส่วนเหตุใดที่ไม่มีการคว่ำบาตรการค้ากับเมียนมา เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้ นายปานปรีย์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องคิดดูว่า วันนี้ผู้ประกอบการเป็นประชาชนที่ทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งประชาชนที่ค้าขายไม่ใช่นักรบ และประเทศไทยเอง ก็มีผู้ที่ค้าขายอยู่ตามแนวชายแดน เมื่อคนไทยได้รับผลกระทบก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล จะต้องช่วยให้ยืนอยู่ต่อไปได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ล้มละลาย
ไทยมีชายแดนติดกับเมียนมา ไม่เหมือนกับบางประเทศ ที่ไม่มีชายแดนติดกันแล้วจะคว่ำบาตรแล้วไม่ส่งผลกระทบอะไร รวมทั้งในระดับใหญ่ไทยและเมียนมา ก็มีเรื่องของพลังงานซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากใช้มาตรการคว่ำบาตร ที่รุนแรงก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และเชื่อว่าคนไทยไม่ประสงค์ให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น
สำหรับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข และเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งการมารับฟังปัญหาครั้งนี้ตนเห็นว่า เป็นภัยคุกคามประเภทใหม่ ไม่สามารถละเลยได้ จนทำให้ปัญหาคาสิโนกลายเป็นเรื่องเล็ก
แต่มีปัญหาการพนันออนไลน์และการค้ามนุษย์เกิดขึ้น รวมไปถึงอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นอย่างการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องหยุดให้ได้ แต่ไทยเพียงประเทศเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศหลายประเทศ ไม่ใช่เฉพาะประเทศที่มีชายแดนติดกัน แต่ประเทศในภูมิภาคอื่น ก็ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน
ปานปรีย์ มหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ตรวจเยี่ยมตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก
ส่วนปัญหาความไม่สงบในประเทศเมียนมา ส่งผลกระทบต่อการพูดคุยอย่างไร นายปานปรีย์ ระบุว่า เฉพาะในเมนบอร์ดก็พบความยากลำบากขึ้นในระดับหนึ่ง เนื่องจากพบการแบ่งเป็นกลุ่ม หลายจุดอย่าง เช่น อยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด แต่ยืนยันว่า ใครก็ตามที่ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้อยู่ก็คงต้องหยุดในเรื่องนี้
บริเวณติดกับชายแดนไทย หากไม่มีนักลงทุนขนาดใหญ่มาลงทุน ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงเป็นปัญหาระหว่างประเทศที่ต้องหารือกัน และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเร่งแก้ไขปัญหานี้ด้วยกัน หากไม่แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ชาวโลกก็จะได้รับผลกระทบไปหมด
นายปานปรีย์กล่าวต่อว่า ไม่ใช่เพียงคนไทยที่ถูกหลอก เข้าไปทำงานยังคาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีชาวต่างชาติด้วย ซึ่งเดิมมีคนไทยอยู่จำนวนมากก็จริง และมีข่าวว่าจะมีคนไทยไหลออกมาเป็นพันคนนั้นตน ยืนยันว่าไม่จริง
รายงานล่าสุดมีเพียง 80 คน และไม่ใช่คนไทยทั้งหมด มีคนไทยเพียง 8 คน ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ และย้ำว่า เป็นเรื่องใหญ่ที่ทางอาเซียนและ EU รวมไปถึงสหรัฐฯ ให้ความสำคัญและต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว
อ่านข่าว : "ผู้เฒ่าไร้สัญชาติ" สุดปลื้มได้บัตรประชาชนไทย
"อุ๊งอิ๊ง" หวัง "ทักษิณ" มีชื่อพักโทษ 18 ก.พ.นี้
ไอเดีย 1 จังหวัด 1 กางเกง ชูเอกลักษณ์ประจำจังหวัด "ปูก้ามดาบ-ไก่ชน-วัวลาน-หอย"