จนท.เร่งฟื้นฟู อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ หลังดินโคลนถล่ม
ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ยังคงเข้าไปฟื้นฟู พื้นที่บ้านน้ำไผ่ บ้านต้นขนุน และบ้านห้วยคอม ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ถูกน้ำป่าและดินโคลนถล่มเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมาจนทำให้มีบ้านเสียหาย 43 หลัง มีผู้เสียชีวิต 5 คน และ สูญหายอีก 2 คน ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ขณะที่ผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 5 คน จะมีพิธีฌาปณกิจ พร้อมกันวันที่ 15 ก.ย.นี้ ส่วนผู้ที่สูญหายอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาแล้ว
ส่วนการจัดการด้านที่อยู่อาศัยซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่ต้องการย้ายกลับเข้าไปอยู่ในพื้นที่เดิม แม้จะมีการสร้างบ้านให้ใหม่ก็ตาม เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในลักษณะเดียวกันขึ้นอีก เบื้องต้น จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ตั้งคณะทำงานลงสำรวจพื้นที่ เพื่อประเมินความเสียหาย พร้อมกับเร่งทำประชาคมกำหนดพื้นที่ก่อสร้างบ้านให้กับผู้ประสบภัยที่ร้องขอเข้ามาแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่า การทำประชาคมจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้(15 ก.ย.)
ส่วนด้านสุขภาพอนามัยนอกจากมีการส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าให้บริการประชาชนในพื้นที่ ยังมีการเฝ้าระวังด้านสุขภาพจิตเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายงานว่า ชาวบ้านรู้สึกกังวล ตื่นตระหนก และ บางรายมีภาวะเครียดจนถึงขั้นมีปัญหาทางจิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดจิตแพทย์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้าดูแลในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่สถานการณ์น้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์ขยายวงกว้าง ท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ คือ อำเภอหล่มสัก อำเภอเมือง อำเภอหนองไผ่ อำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี และอำเภอศรีเทพ และมีแนวโน้มว่า ระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก
ส่วนฝนที่ตกหนักในจังหวัดชัยภูมิส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลเข้าท่วมนาข้าวหลายตำบลในอำเภอหนองบังแดง และท่วมถนนสายชัยภูมิ - หนองบัวแดง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดลำน้ำชีให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ระดับน้ำที่ท่วมในหลายพื้นที่ลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนบางพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่ม แม้ระดับน้ำจะลดลงแต่ก็ยังคงมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านที่ประสบภัยยังคงต้องรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่