วันนี้ (28 ก.พ.2567) นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในฐานะโฆษก ปปง. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ รวม 2 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐาน พ.ศ. .... และกฎกระทรวงการยื่นคำร้องขอดำเนินการกับทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ปปง. เสนอ
หลังจากนี้ ครม.จะส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
1. กำหนดให้สำนักงาน ปปง. มีหน้าที่ดำเนินการให้บุคคลที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้าย หรือการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (บุคคลที่ถูกกำหนด) หรือผู้เป็นเจ้าหนี้ในค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐาน สามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการ มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัย ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานของคู่สมรส บิดา มารดาและบุตรซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบุคคลที่ถูกกำหนดด้วย เพื่อเป็นการให้ความคุ้มครองตามสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต
2. กำหนดห้ามบุคคลช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลที่ถูกกำหนด โดยการจัดหา รวบรวม หรือดำเนินการทางการเงินหรือทรัพย์สิน หรือดำเนินการด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลที่ถูกกำหนด เพื่อตัดช่องทางการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนบุคคลที่ถูกกำหนดในการนำเงินหรือทรัพย์สินไปใช้ในการกระทำความผิด
3. กำหนดให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานที่ดินสาขา หรือสำนักงานที่ดินอำเภอ ได้รับยกเว้นไม่ต้องกำหนดนโยบายในการประเมินความเสี่ยงหรือแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันมิให้มีการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
4. กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าหนี้ของบุคคลที่ถูกกำหนดสามารถยื่นคำร้องต่อสำนักงาน ปปง. เพื่อขอนำเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการมาชำระหนี้ของบุคคลที่ถูกกำหนดซึ่งเป็นลูกหนี้ได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหนี้ของบุคคลที่ถูกกำหนดในการได้รับชำระหนี้ และอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลที่ถูกกำหนดที่จะไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดชาระหนี้
5. กำหนดให้สำนักงาน ปปง. มีอำนาจหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดหรือเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด หรือการยึด อายัดหรือริบทรัพย์สิน รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่สอบถามหรือเรียกผู้มีหน้าที่รายงานซึ่งเป็นสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบอาชีพ ส่งเจ้าหน้าที่มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารต่าง ๆ มาใช้ในการกำหนด และเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด โดยอาจร้องขอข้อมูลที่อยู่ในความครอบครอง หรือควบคุมดูแลของส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐก็ได้
6. กำหนดเพิ่มเติมความผิดในฐานต่าง ๆ เช่น ฝ่าฝืนไม่กำหนดนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติ หรือมาตรการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ฝ่าฝืนให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนทางการเงินแก่บุคคลที่ถูกกำหนด ฝ่าฝืนไม่มาให้ถ้อยคำ ไม่ส่งคำชี้แจง หรือไม่ส่งบัญชี เอกสาร หรือหลักฐาน
และแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และความผิดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ให้มีอัตราโทษที่เหมาะสม รวมทั้งกำหนดให้ความผิดบางประการที่นิติบุคคลเป็นผู้กระทำความผิด เป็นความผิดที่เปรียบเทียบได้
อ่านข่าวอื่นๆ
"ตำรวจไซเบอร์" ชี้สาวถูกดูดเงิน 20 ครั้งเหลือ 5,000 เรื่องเข้าใจผิด
ยกเลิกภาษีนำเข้า อานิสงส์ “FTA ไทย-ศรีลังกา”ดันสินค้าเกษตรโต
“ชัยวัฒน์” ซัด ส.ป.ก.ยืนยันที่ดินเขาใหญ่อยู่ในอุทยานฯ ท้าพิสูจน์ 1 มี.ค.