วันนี้ (29 ก.พ.2567) พล.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 คนคือ นายประกร และนายพลภัทร บริเวณใกล้บ้านพักใน จ.นนทบุรี หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดมายังราชอาณาจักรไทย ในคดีพิเศษที่ 127/2566 รวม 9 หมายจับ
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่มีการออกหมายจับ คือกลุ่มที่นำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์แช่แข็ง และยังเป็นการใช้ระบบเขตปลอดอากร (Free Zone) ซึ่งในกลุ่มนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องคือข้าราชการระดับสูงของกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์
ดีเอสไอพบข้อมูลจากบัญชีรายจ่ายที่กลุ่มผู้ต้องหาจ่ายเงินให้ทั้งแบบรายเดือนและแบบรายตู้ มีทั้งการจ่ายแบบเงินสดและโอนเข้าบัญชีธนาคาร นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงบัญชีที่ระบุมีชื่อ "เฮียเก้า" เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ส่วนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นบุคคลที่เคยถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หรือไม่
สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้บริษัทของตัวเองในเครือทั้ง 4 บริษัทนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์มาก่อนแล้ว โดยผลการตรวจค้นบริษัทฯ ในเขตปลอดอากร มีการนำสินค้าซากสัตว์ประเภทสุกร เครื่องในโค ชิ้นส่วนไก่ ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2563 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2567 รวมจำนวน 3,469 ตู้ เข้ามาในประเทศไทย เพื่อใช้สิทธิด้านภาษีอากร โดยให้บริษัทที่เป็นเครือข่ายนำเข้ามาและอ้างว่าได้โอนให้กันเพื่อใช้สิทธิด้านภาษีอากรขาเข้า และเมื่อนำเข้ามาแล้วกลับไม่ได้ทำการผลิตใหม่ตามที่กรมศุลกากรกำหนด
จากนั้นนำออกจากเขตปลอดอากรไปจำหน่ายในประเทศไทยให้กับบริษัทจำหน่ายอาหารสด ก่อนที่จะนำมาขอลดอากร ทำให้เกิดความเสียหายด้านภาษีศุลกากรเฉลี่ยประมาณตู้ละ 400,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายด้านภาษีศุลกากรที่เกิดต่อรัฐไทย 1,300 ล้านบาท
ทั้งนี้หากได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาจะต้องใช้หลักทรัพย์วงเงิน 200,000 บาทเท่ากันหมด ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนคือ น.ส.ชนิสรา, นายกิตติ และนายภูวดล เตรียมเข้ามอบตัวในวันที่ 1 มี.ค.นี้
อ่านข่าวอื่นๆ
“ศุลกากร” ยึดเฮโรอีน มูลค่า 21 ล้าน เตรียมส่ง “ออสเตรเลีย”
“สุทิน” ปฏิเสธ 2 ตระกูลฮั้วประโยชน์ ทำไทยส่อเสียดินแดน "เกาะกูด"
อสส.สั่งฟ้อง "อนันต์ อัศวโภคิน" สมคบฟอกเงินคดีสหกรณ์ฯคลองจั่น