กลายเป็นดรามาเรื่องของการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เมื่อมีพ่อค้าคนหนึ่งประกาศขายดวงตา อ้างหวังนำเงินมาใช้หนี้นอกระบบ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ป้ายประกาศขายดวงตา 1 ข้าง ในราคา 500,000 บาท ที่นำมาติดไว้หน้าแผงขายผลไม้ริมถนนบางบอน 1 เขตบางบอน ระบุเพื่อนำเงินมาใช้หนี้นอกระบบและนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
พ่อค้าขายผลไม้ อายุ 57 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้รับราชการ ที่สำนักงานเขตแห่งหนึ่ง ก่อนลาออกเพราะเป็นหนี้นอกระบบ สาเหตุจากกู้เงินมาลงทุน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นได้กู้เจ้าใหม่อีก รวม 7 เจ้า เป็นเงินกว่า 300,000 บาท แต่ยืนยันเจ้าหนี้ไม่ได้เร่งรัดหรือข่มขู่ และเงินส่วนหนึ่งจะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
การประกาศขายดวงตา 1 ข้าง 500,000 บาท เจ้าของแผงผลไม้ บอกว่า เป็นความต้องการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัว
พ่อค้าคนนี้บอกว่า หลังเรื่องราวของเขาถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้หลายคนเห็นใจ และบางคนช่วยอุดหนุนซื้อผลไม้ ส่วนการขายอวัยวะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ยอมรับว่า รู้ข้อกฎหมายนี้ แต่ก็ไม่มีทางอื่น ขณะที่โครงการการประนอมหนี้ของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ใช้การแก้ปัญหา เป็นเพียงการเจรจาผ่อนจ่ายหนี้
รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้ามันจำเป็นกับการที่สูญเสียอวัยวะ ทำใจได้ เพราะทำเพื่อครอบครัว
พ่อค้าผลไม้ประกาศขายดวงตา 1 ข้างอ้างใช้หนี้นอกระบบ รู้ว่าผิดกฎหมายแต่ทำเพื่อครอบครัว
พ่อค้าผลไม้ประกาศขายดวงตา 1 ข้างอ้างใช้หนี้นอกระบบ รู้ว่าผิดกฎหมายแต่ทำเพื่อครอบครัว
เปิดข้อกฎหมายขาย "อวัยวะ" ผิดกฎหมาย
สำหรับการซื้อขายอวัยวะนั้น คำเตือนเพจของหมอแล็บแพนด้าว่า การขายอวัยวะ เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่สามารถบริจาคได้ คือตอนที่มีชีวิตอยู่ ญาติสามารถบริจาคให้ญาติได้ หรือคู่ที่จดทะเบียนสมรส สามารถให้ไตกันได้ หรือผู้มีจิตศรัธา
ให้ตอนสมองตาย คนที่สมองตายทางการแพทย์ถือว่า เป็นผู้เสียชีวิตแล้ว โดยความยินยอมจากญาติ และ ตัวผู้บริจาคเอง บุคคลที่นำอวัยวะมาจากบุคคลที่ยังมีชีวิต ถือว่ามีความผิดฐาน ทำร้ายร่างกาย ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และความผิดฐานค้ามนุษย์
ส่วนหากนำอวัยวะมาจากบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว มีความผิดฐานทำให้ศพเสียหาย ความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศพและความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
สำหรับโครงการลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนแก้หนี้ระหว่างเจ้าหนี้ กับลูกหนี้ ตั้งแต่ 1 ธ.ค.2566 -29 ก.พ.2567 มีประชาชนลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 151,175 คน มูลหนี้ 11,732 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 18,509 ราย มูลหนี้ลดลง 771 ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 125,081 คน และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 27,348 คน รวมจำนวนเจ้าหนี้ 125,302 คน