“สคทช.” ถกทุกหน่วยแก้พิพาทที่ดิน “เขาใหญ่-ส.ป.ก.”

วันนี้ (14 มี.ค.2567) นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดแนวทางแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ณ ห้องประชุม สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

โดยมี นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รอง ผวจ.นครราชสีมา นายจิรพงษ์ คูหากาญน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯ นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง

นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พล.ต.ถนอม สบายพร รอง ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. พล.ท.ชัยสิทธิ์ ปรียานุภาพ ที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงแผนที่เขตที่ดินแห่งรัฐฯ นายมูฮัมหมาด ยังหะสัน ผอ.กองที่ดินของรัฐ นายอำนวยชัย โฆษิตภานิชยกุล ผอ.กองกฎหมาย

นายไกรศรี สว่างศรี ผอ.ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง สำนักงานคณะกรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก.นครราชสีมา ตำรวจ ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง และหารือปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ แบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 400 (One map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก และ สระบุรี

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ลุกขึ้นอธิบายชี้แนวเขต ในแผนที่ก่อนและหลังประกาศตั้งอุทยานฯเขาใหญ่ ต่อที่ประชุมว่า แผนที่ที่นำเสนอถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่ปี 2505 แต่ก็มีหลายหน่วยงานมีการแย้ง และยึดถือแผนที่ของหน่วยงานตัวเอง และยังไม่มีข้อสรุปในที่ประชุม เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อจะได้นำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)

จากนั้นเวลา 13.30 น.นำคณะลงตรวจสอบพื้นที่ หมู่ 10 บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทแนวเขตระหว่างหน่วยงานของรัฐ คือ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดนครราชสีมา กับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

จากกรณี มีกลุ่มนายทุนที่ไม่ใช่เกษตรกรเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2 จุด และพบหมุดนิรนาม ส.ป.ก.4-01 ปักแบ่งแปลงที่ดินกระจายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กว่า 42 แปลง และยังมีการตีแปลงในผืนป่าอุทยานฯ อีกกว่า 2,993 ไร่ มีผู้เข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าในเขต จนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าจับกุม 2 จุด รวม 7 ราย จน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ลงพื้นที่ ถอนหมุด ส.ป.ก.4-01 ที่ปักในเขตอุทยานฯ รวม 17 หลัก

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่ง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อ้างว่า เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็อ้างสิทธิ์ว่า อยู่ในพื้นที่ของอุทยานฯ เพราะตั้งแต่ปี 2505 ที่ประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นต้นมา ยังไม่มีการยกเลิกแนวเขต

ต่อมากรมแผนที่ทหารได้ลงพื้นที่ตรวจวัดแนวเขต พร้อมยืนยันว่า ส.ป.ก.ไม่ทับซ้อนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงทำให้เกิดพิพาทกัน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทำให้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายลงพื้นที่ เช่น คณะกรรมาธิการ การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่ ปปป.และ ปปท.ลงพื้นที่ จุดข้อพิพาท ออก ส.ป.ก.4-01เหวปลากั้ง และมีกลุ่มอนุรักษ์ 24 องค์กร ออกมาตั้งเวทีปกป้องผืนป่าเขาใหญ่ ตามที่มีข่าวตามสื่อต่าง ๆ

นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เพื่อหาแนวทางและข้อมูลเสนอในที่ประชุม จะมีคณะทำงานลงมาอีกคณะ ได้นำแผนที่อุทยานฯปี 2505 เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีแผนที่ของตัวเอง นำมาเสนอ ซึ่งวันนี้เป็นคู่มือการประชุมก็ยังมีความคลาดเคลื่อน ต้องรอให้คณะอนุกรรมการลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ก่อนจะนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)

ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กล่าวว่า อันที่จริงไม่มีอะไรซับซ้อนมาก การกำหนดแนวเขตอุทยานฯ ปี 2505 นั้น มีแผนที่ชัดเจน ประกอบกับแผนที่ของกรมป่าไม้ แต่การนำเสนอมีหลายหน่วยงาน บางหน่วยงานหาวิธีการดึงเกม ขอพิสูจน์ดินพิสูจน์แก่นไม้ เคยเป็นสวนป่ามาก่อนหรือไม่ หรือเคยมีราษฎร เคยเข้าไปทำกินมาก่อนหรือไม่ ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวการตรวจชี้แนวเขต ซึ่งตนยืนยันตามแนวเขตของกรมอุทยานแห่งชาติ ปี 2505 หากตกลงไม่ได้ก็พบกันที่ศาล

อ่านข่าว : ภาคประชาชนจัดกิจกรรมเนื่องใน "วันหยุดเขื่อนโลก" 14 มี.ค.

สั่งปฏิรูปที่ดินโคราช เพิกถอน ส.ป.ก.4-01 ยกเลิกรังวัด 1,279 ไร่

ชงของบกลาง 1,000 ล้านแก้ช้างป่า จัดทัพเฝ้า 200 ชุด 60 จุดเสี่ยง