จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีทริปกลับบ้านเชียงใหม่ เพื่อสำรวจคะแนนนิยมไปในที ซึ่งก็ได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ปังอย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนคนเสื้อแดง
เพราะแม้แต่วันไปรอต้อนรับให้กำลังใจที่วัดโรงธรรมสามัคคี ที่นายทักษิณไปกราบไหว้อัฐิคนในตระกูลชินวัตร มีการรณรงค์ของกลุ่มรวมพลคนรักทักษิณล่วงหน้า ยังมีมวลชนไปต้อนรับไม่มากนัก
ใกล้เคียงกับจำนวน “ด้อมส้ม” ที่ไปรับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ “ร้านเล่า” เพื่อแจกลายเซ็นในหนังสือ
สะท้อนว่า มวลชนไม่เข้มข้นเหมือนก่อน แม้แต่ที่เชียงใหม่ เมืองหลวงของคนเสื้อแดงและเป็นไข่แดงของตระกูลชินวัตร แต่ที่ปัง กลับเป็นเรื่อง 3 นายกฯ เจอกันในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และนักการเมือง สส. รัฐมนตรีบางคน ไปล้อมหน้าล้อมหลังเสริมบารมีให้นายทักษิณ
นำมาสู่การเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อนิด้าโพล เปิดผลสำรวจคะแนนนิยมทั้งตัวบุคคลที่ประชาชนหนุนให้เป็นนายกฯ และพรรคการเมือง ยังคงเป็นนายพิธา และพรรคก้าวไกล ที่ขยับเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจ 3 เดือนก่อนอย่างมีนัย
นายพิธามีคะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 42.7 % เพิ่มเกือบ 3 % จาก 3 เดือนก่อน แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่อยู่ที่ 3 คะแนนเหลือ 17.7 % ลดลงกว่า 4 % ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นเศษทศนิยม จาก 5.7 เป็น 6 %
ส่วนคะแนนนิยมพรรคก้าวไกล ขยับจาก 44 % เป็น 48.4 % เพิ่มขึ้นถึง 4.5 % พรรคเพื่อไทย ลดจาก 24 % เหลือ 22 % แสดงว่า การเป็นรัฐบาล 6-7 เดือน ไม่ได้ช่วยเพิ่มคะแนนนิยมให้เลย
การไปปรากฏตัวที่ร้านตัดผมย่านถนนสีลม ใจกลางกรุงเทพฯ ของนายทักษิณ จึงเกิดขึ้นตามมาทันที พร้อมข่าวและภาพข่าวคนยืนรอหน้าร้านขอถ่ายภาพด้วย และเจ้าตัวได้สอบถามถึงสภาพเศรษฐกิจที่ ถ.สีลม เหมือนจะสื่อสารให้เกิดการเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งเป็นผู้นำประเทศ
ตามติดมาด้วยการเปิดแถลงข่าวของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ยังไม่ผ่านบอร์ดชุดใหญ่ ที่มีนายกฯ เป็นประธาน และเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน รวมทั้งให้ความหวังประชาชนอีกรอบ ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ได้ใช้แน่นอน
ทั้งที่ฝ่ายค้าน นักเศรษฐศาสตร์ รวมทั้ง สว.ที่อภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 เมื่อวันที่ 25 มี.ค. โดยนายสมชาย แสวงการ เตือนครั้งที่ 6 ให้หยุดโครงการนี้ หาไม่แล้วจะเสี่ยงต่อกฎหมายและจะถูกร้องไปยัง ป.ป.ช.
ตามด้วยการเปิดคิวด่วน 26 มี.ค.นายทักษิณเข้าพรรคเพื่อไทยพบ สส. พร้อมภาพบรรยากาศชื่นมื่นและคำชื่นชมนายทักษิณ ปรากฏบนนหน้าสื่อและโลกโซเชียล เป็นการรับประกันกลายๆ ว่าศึกอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ต้นเดือนเมษายนนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านคนใดกล้าแตะนายทักษิณ มีสิทธิ์เจอประท้วงตอบโต้โดยทีมองครักษ์แน่นอน
เป็นการสะท้อนบารมี และการเป็นศูนย์รวมตัวจริงของนายทักษิณ ซึ่งจะส่งผลทางการเมืองและคะแนนนิยมของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยโดยตรง
ถือเป็นการ “คืนรัง” พรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่หนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกเมื่อปี 2551 และถือเป็นการเดินทางยาวนานตั้งแต่นั้น ก่อนจะกลับถึงประเทศไทยอีกครั้ง 22 สิงหาคม 2566
เรตติ้งจะขึ้นหรือลงอย่างไร จากนี้ไปจะได้รู้กัน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
อ่านข่าว : "เศรษฐา" สั่งหาแหล่งเงินอื่น แทนกู้แจกดิจิทัล 1 หมื่นบาท
"พนัส" นำเปิดตัว 29 ผู้สมัคร สว.แทน สว.ชุดเก่า หวังเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ