ชงนายกฯ ปรับแก้เกณฑ์เบิกจ่ายภัยพิบัติ หลังพบพิรุธ

นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ประธานอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วุฒิสภา กล่าวถึงแนวทางป้องกันปัญหาว่า รัฐบาลต้องกำหนดระดับความรุนแรงของภัยพิบัติ และหลักเกณฑ์ปฏิบัติสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างชัดเจน เพื่อให้การใช้งบฉุกเฉินเกิดประสิทธิภาพ และถึงมือผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง หลังพบว่า บางจังหวัดเบิกจ่ายค่าเปิดเส้นทางน้ำและใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูงเกินจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรรมาธิการฯ กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อเสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

 

นายอำพน วงศ์ศิริ รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ท. ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอส โดยยอมรับว่า คำชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเบิกจ่ายงบภัยพิบัติสูงเกินจริงเข้าข่ายต้องสงสัยว่าอาจทุจริต และพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบซ้ำ แต่เมื่อมติคณะรัฐมนตรีมีคำสั่งโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) ให้มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ส่งผลให้เกิดสุญญากาศภายในองค์กร แต่คงไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบปัญหาดังกล่าว

 

ก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.สรุปรายงานเสนอต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีกับจังหวัดที่เข้าข่ายทุจริตการเบิกจ่ายงบภัยพิบัติน้ำท่วม ปีงบประมาณ 2552 อย่างน้อย 8-9 จังหวัด เช่น สุรินทร์ แพร่ นครศรีธรรมราช ซึ่งพร้อมลงพื้นที่สุ่มตรวจการใช้งบภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งนี้เช่นกัน